Sunday, January 15, 2012

อ่านละครอสูรน้อยในตะเกียงแก้ว ตอนที่ 3-4 วันที่ 17 ม.ค.55

อ่านละครอสูรน้อยในตะเกียงแก้ว ตอนที่ 3
“ฮึ่ย...มาได้ไงอ่ะ ฉันทิ้งไปแล้วนี่” แนนนี่คว้ามาดูอย่างสุดเซ็ง เพราะได้คะแนนสิบส่วนร้อย เธอเกรงปัทมนเห็นจะเสียใจ นึกได้ว่าใบคะแนนที่ผ่านมาโป่งเป็นคนจัดการทำลายให้

แนนนี่หยิบมือถือจะโทร.เรียกโป่ง จึงเห็นว่าแบตหมดตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้...ภวัตให้โป่งไปตามดารกากับแนนนี่ มาทานอาหารที่บ้าน แต่โป่งหายไปนานจึงตามมาดู และได้เห็นโป่งกำลังขุดหลุมฝังข้อสอบให้แนนนี่ เธอย้ำโป่งไม่ให้บอกใคร โป่งมองไปเห็นภวัตยืนฟังอยู่ แต่ส่งสัญญาณไม่ให้บอกแนนนี่

“ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่นายต้องเป็นคนทำลายกระดาษข้อสอบของฉัน เพราะคราวหน้าฉันจะทำคะแนนเต็ม ถึงเวลาที่ทุกคนจะต้องภูมิใจในตัวฉัน โดยเฉพาะ...พี่ภวัต” แนนนี่ยิ้มกริ่ม ทำเอาภวัตเลิกคิ้วตั้งใจฟัง “ถึงฉันจะไม่น่ารักในสายตาใครๆ แต่อย่างน้อยฉันก็มีพี่ภวัตคนนึงล่ะ ที่เล็งเห็นความงามในตัวฉัน เพราะฉะนั้นฉันจะต้องเป็นผู้หญิงที่ดีพร้อมสำหรับ

พี่ภวัตให้ได้ นายคิดว่าฉันคิดถูกมั้ย”
นัยน์ตาแนนนี่เคลิ้มฝัน พอเห็นโป่งทำท่าเหลือบตา “อะไรของนายอ่ะ หลุกหลิกๆตั้งแต่ที่ครัวแล้ว” แนนนี่หันมาเจอภวัตยืนอยู่ เธอตกตะลึง ภวัตเดินเข้ามาใกล้ แนนนี่ปัดป่ายมือ เรียกโป่ง “นายโป่ง เดี๋ยวนี้นายเลียนแบบเวทมนตร์ฉัน ขนาดเสกคนได้ตัวเป็นๆเลยเหรอ”

ภวัตจับไหล่ทั้งสองข้างของแนนนี่ เธอหน้าแดงไม่อยากเชื่อว่าจะจับตัวได้ ภวัตเขย่าเรียกสติ “พี่เอง...แนนนี่ จำพี่ไม่ได้ เหรอ”

“พี่ภวัตจริงๆเหรอคะ” แนนนี่น้ำตาคลอเบ้าโผกอดภวัต เขาลูบผมเธออย่างเอ็นดู...

ดารกาหลบมาอ่านจดหมายในห้อง ข้อความว่า...แม่รู้ว่าแม่ทำผิดกับลูกไว้มาก ให้อภัยแม่เถอะนะ เวลานี้แม่ลำบากเหลือเกิน แม่อยากเจอลูกสักครั้งก่อนตาย ไปพบแม่ให้ได้นะ... ดารกาน้ำตาร่วงพรู สะอื้นอย่างน่าสงสาร

“ไม่จริง ไม่...อนาคตแพทย์หญิงอย่างฉัน จะต้องไม่มีประวัติด่างพร้อย ไม่...”

ดารกาสอดจดหมายไว้ในหนังสือเล่มหนึ่ง วางคืนในชั้น หันมาจัดผมเผ้าดูหน้าตา แล้วหยิบผ้าพันคอสีชมพูที่ภวัตเคยให้มาพันคอ อดไม่ได้จะเหลือบมองหนังสือบนชั้นอย่างกังวล

ปัทมนแปลกใจที่ให้ใครไปตามแนนนี่กับดารกาแต่ก็หายกันไป จึงจะไปตามเอง รัดเกล้าอาสาไปแทน ไม่ทันไร แนนนี่เดินหน้าบูดบึ้งเข้ามา เปรยว่าทุกคนดูมีความสุขกันจริง จักรวาลกับปัทมนกลัวแนนนี่น้อยใจ ช่วยกันบอกว่าพยายามโทร.หาแล้วแต่ไม่ติด แนนนี่หัวเราะคิก ภวัตเดินตามเข้ามาโยกหัวแนนนี่ ว่าเกเรอีกแล้ว

“อ้าว...ตกลงเจอกันแล้ว จริงๆเลยนะเรา...แนนนี่”

ปัทมนเอ็ด

“ถ้าธรรมดาจะใช่แนนนี่เหรอคะ”

“เอ๊ะ แล้วนี่หนูดาไม่ได้มาด้วยกันหรอกเหรอ” อิงอรถามแนนนี่นึกถึงตอนที่ดารการ้องไห้อยู่แล้วคิดจะเล่าให้ปัทมนฟัง แต่แล้วฉุกคิดว่าไม่ควรไปยุ่งเรื่องของเธอ จึงเสพูดว่า “ไม่มีอะไรค่ะ แนนนี่หิวมากเลย พี่ภวัตต้องดูแลแนนนี่ดีๆนะคะ โทษฐานที่ให้แนนนี่รู้คนสุดท้ายเลย ว่าพี่ภวัตกลับมาแล้ว”

ภวัตกุลีกุจอหาของกินเอาใจแนนนี่...ดารกาเกรงคนมาเจอจดหมาย จึงคิดจะเอาไปเผาทิ้ง เธอกอดหนังสือเล่มที่ใส่จดหมายวิ่งออกมา ชนเข้ากับรัดเกล้าที่มาตาม หนังสือหล่น รัดเกล้าจะเก็บให้ ดารการ้องลั่น

“อย่านะคะ...เอ่อ คือน้องดากำลังรีบเอาหนังสือนี่ไปให้เพื่อนน่ะค่ะ ขอบคุณนะคะที่มาตาม เดี๋ยวน้องดาตามไปนะคะ” พูดจบดารกาก็คว้าหนังสือวิ่งไป

รัดเกล้างงๆ หันมาเจอจดหมายตกอยู่ที่พื้น จึงเก็บขึ้นมา ลังเลอยากเปิดอ่านเพราะท่าทีดารกาดูแปลกๆ ธานีตามมาเห็นถามว่าทำอะไรอยู่ รัดเกล้าตกใจ ธานีถามแอบมีจดหมายรักจากผู้ชายหรือ รัดเกล้าเอามือปิดปากธานีไม่ให้เสียงดัง แล้วบอกว่าจดหมายนี่ของดารกา ตนเก็บได้ ธานีดึงมาเปิดอ่านเพราะถือว่าตนเป็นพี่ชาย

ooooooo

สภาพบ้านเก่าทรุดโทรม มาลีอยู่กับสดับ ชายที่ข่มขืนตนจนตั้งท้อง แม้ตนจะทิ้งลูกแล้วหนีไปอยู่ต่างจังหวัด สดับยังไปลากตัวกลับมา ใช้ให้ทำงานหาเงินให้เขากินเหล้าสูบยา มาตอนนี้ยังให้ไปรีดไถเงินจากดารกาอีก...

พอรู้ตัวว่าจดหมายหาย ดารการ้อนรนเดินหาจดหมายตามรั้วบ้าน ชนเข้ากับแนนนี่อย่างจัง แนนนี่ไม่พอใจทวงคำขอโทษ แต่ดารกากลับขับไล่ให้ออกไป อย่ามายุ่ง แนนนี่โกรธ

“อีกแล้วนะ พี่ดาชนแนนนี่เห็นๆคิดได้ไงว่าแนนนี่มายุ่ง หา...เมื่อเย็นก็ทีนึงแล้ว คำก็ยุ่งสองคำก็ยุ่ง ขอโทษแนนนี่เดี๋ยวนี้นะ” แนนนี่ยื้อแขนดารกา

ดารกาสะบัดอย่างแรง หันมาจ้องแนนนี่ตาแดงวาบอย่างน่ากลัว แนนนี่ผงะ ดารกาก้าวเข้าหา เสียงสดับซึ่งเมาหลับแต่ปากพึมพำ...ใช้พลังของเจ้า ดารกาลูกพ่อ ฆ่ามัน...เสียงก้องกังวานในหัวดารกา เธอเดินเข้าหาแนนนี่แบบขาดสติ แนนนี่ตกใจวาดมือสร้างกำแพงโปร่งแสง ทำให้ดารกาพุ่งเข้ามากระแทกหงายหลังไปอย่างแรง ทาฮิร่าปรากฏตัวขึ้นเอ็ดแนนนี่ทำอะไร

“นั่นไม่ใช่พี่ดาค่ะ แต่เป็นใครไม่รู้ เขาจะทำร้ายแนนนี่”

ดารกาเงยหน้ามาหน้าผากปูดบวม ยกมือไหว้ทาฮิร่า เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แนนนี่งุนงงที่ดารกากลับมาเป็นคนเดิม

เข้าห้องมา ทาฮิร่าดุแนนนี่ที่ใช้เวทมนตร์พร่ำเพรื่อ และตำหนิชิกเก้นที่ไม่ดูแล แนนนี่พยายามบอกว่าดารกาจะทำร้ายตน แต่ทาฮิร่าไม่เชื่อ แนนนี่นึกได้ให้ชิกเก้นไปดมดารกาว่ามีอะไรแฝงอยู่ ทาฮิร่าเอ็ดไม่ให้ทำอะไรทั้งนั้น แนนนี่งอนลงไปอยู่ในตะเกียงแก้ว ทาฮิร่าหน้าเครียดเพราะก่อนหน้านี้ ตอนที่ตนอยู่ในโลกเวทมนตร์ ตนได้ยินเสียงแนนนี่ร้องว่า...อย่าเข้ามานะและตามด้วยเสียงสดับ...ฆ่ามัน พอมาถึงก็เห็นดารกาตรงเข้าใส่แนนนี่ ทาฮิร่าคิดแล้วยิ่งงง...

ในคืนเดียวกัน มือของบุษบาพองเฟะ เธอกำลังทายาไปบ่นไป ไชยเข้ามาดูแปลกใจที่แผลเหมือนถูกไฟไหม้ จึงถาม “ไหนบุษว่าถูกต้นไม้ในสวนบ้านภวัตเกี่ยวเอาไง”

“ก็พูดไปยังงั้นล่ะค่ะ แต่ที่จริง...” บุษบาเล่าว่าตนวางมือบนไหล่ดารกา แล้วรู้สึกเหมือนถูกกระแสไฟอย่างแรง “ทีแรกบุษก็คิดว่าแค่ไฟฟ้าสถิตจากเสื้อยัยเด็กนั่น แต่มันไม่ใช่”

ไชยถามว่าเมาแล้วไปจับของร้อนหรือเปล่า บุษบาโต้ว่า ตนเพิ่งกลับมาจะเอาเวลาไหนไปเมา ไชยไม่เถียงด้วยแล้วหันมาคุยเรื่องดารกาว่าจะมีโอกาสเจอตัวอีกเมื่อไหร่ บุษบาเบ้ปากเห็นแววตาของพี่ชายที่หื่นกระหาย กระเซ้าว่าคงไม่ตายน้ำตื้นกับเด็กอย่างนั้นหรอกนะ

“ก็จริงน่ะสิ ไม่ดีหรอกเหรอ พี่เป็นหมอ เขาก็เป็นนักศึกษาแพทย์ ได้มาเป็นแฟนมีแต่ดีกับดี ช่วยทำงานที่โรงพยาบาลเราได้ด้วย”

บุษบาทำหน้าเครียดเพราะไม่ได้มีแค่ดารกาคนเดียว ยังมีแนนนี่อีกคนที่ตามตื๊อภวัต

“ว้าว...ชื่อน่ารักซะด้วย”

“หยุดเลยค่ะ หยุดเลย ไม่ใช่สเปกพี่ไชยแน่ค่ะ เท่าที่ฟังจากภวัต ยัยแนนนี่ต่างจากยัยดารกาแบบฟ้ากับเหว เรียนก็โง่ เกเร เอาแต่ใจเป็นที่หนึ่ง” บุษบาเม้าท์สนุกปาก ไชยฟังอย่างสนใจ

ooooooo

นอนเอกเขนกจามลั่นอยู่บนเตียง ตะเกียงแก้วร้องอี๋...มาแพร่เชื้อในตะเกียง หรือว่ามีคนนินทา แนนนี่ลุกพรวดสงสัยว่าใคร ตะเกียงแก้วแกล้งว่าจะรู้ได้อย่างไรเธอมีศัตรูรอบตัว

“อ้าวๆพูดอย่างนี้ไม่เข้าข้างกันเลยนี่ ฉันไปดีกว่า แล้วโคมไฟอันใหม่ก็ลืมไปได้เลย เอาตะเกียงไปก็แล้วกัน นี่แน่ะ” แนนนี่เสกตะเกียงเก่าวางไว้

ตะเกียงแก้วโวยวายให้เอาออกไป มันไม่เข้ากับตน แนนนี่ขู่อีกว่าจะเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์เป็นของเก่าให้หมด ถ้าพูดจาไม่เข้าหูอีก ตะเกียงแก้วโอดโอยว่าที่พูดเพราะหวังดี อยากให้ระวังตัว ดูที่เล่ามาดารกาไม่ธรรมดาเลย แนนนี่หน้างอที่ไม่มีใครเชื่อตน

“ฉันยังไม่เชื่อเลย อุ๊บส์...ไม่ใช่นะ ไม่ใช่ ฉันหมายถึงว่าดารกาไม่มีวี่แววว่าร้ายกาจอย่างที่เธอเล่าได้เลย”

แนนนี่เข่นเขี้ยวจะหาหลักฐานมาพิสูจน์ให้ได้ ตะเกียงแก้วถามว่าด้วยวิธีไหน แนนนี่ส่ายหน้าถ้ารู้ตนคงทำไปนานแล้ว...

ดารกากลัดกลุ้มกับชะตาชีวิตของตัวเอง เดินเศร้ากลับขึ้นห้อง แล้วต้องดีใจเมื่อเห็นจดหมายวางอยู่บนโต๊ะ คิดว่าตนคงทำตกไว้เอง เธอดีใจที่จะไม่มีใครรู้เรื่องของตน แต่จดหมายนั่นก็สร้างความร้าวรานใจอย่างมาก...ธานีกับรัดเกล้ายืนมองไปที่ หน้าต่างห้องดารกา สองคนคุยกันว่าดารกาคงจะหายเศร้าแล้ว และตกลงกันว่าจะยังไม่ให้ใครรู้เรื่องนี้ แต่ธานียังข้องใจ

“จริงๆไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย เราทุกคนรวมทั้งน้องดาเองก็รู้ดีอยู่แล้วว่าน้องดาไม่ใช่ลูกแท้ๆของคุณแม่”

“ก็ถูก แต่เนื้อหาจดหมายนั่น มันบ่งบอกว่าคุณแม่ของน้องดาอยู่ในสภาวะไม่ปกตินะ”

“จะสภาวะหรือฐานะไหนก็เป็นแม่บังเกิดเกล้า ไม่มีเหตุผลไหนเลยที่น้องดาต้องเครียด เป็นพี่พี่จะบอกให้ทุกคนรู้หรือรีบพาแม่มารู้จักทุกคนด้วยซ้ำ”

รัดเกล้าว่าพวกเราไม่ได้อยู่ในสถานการณ์นั้นก็พูดได้ ธานีเห็นด้วยแต่ก็นับว่าเป็นเรื่องดีที่ทำให้เขากับเธอพูดกันดีๆ ได้ทั้งวัน รัดเกล้าเขินเดินหนี สะดุดขอนไม้ล้ม ลุกขึ้นชนต้นไม้อีก ธานีหัวเราะก๊าก รัดเกล้ารีบวิ่งหนีกลับบ้านด้วยความอาย

ในห้องนอนภวัต โป่งกำลังจัดที่นอนให้ ปากก็พูดถึงแนนนี่ว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา เธอพร่ำพูดถึงภวัตไม่ขาดปาก ภวัตติงโป่งว่าตอนนี้แนนนี่โตเป็นสาวแล้วอย่าพูดให้เสียหาย โป่งยืนยันว่าจริงๆ แนนนี่บอกตนว่าจะเอาภวัตเป็นเจ้าบ่าว ภวัตไม่พอใจไล่โป่งให้ออกไปได้แล้ว ไม่ทันไร ดารกาโทร.เข้ามาบอกว่า นอนไม่หลับอยากคุยด้วย ตอนนี้ยืนอยู่ใต้หน้าต่างห้องเขา ภวัตรีบลงมาหาเธอในสวน ถามอย่างห่วงใยว่าเป็นอะไร

“น้องดาอยากเป็นคนที่ดีพร้อม น้องดาอยากอยู่ใกล้ๆพี่ภวัตค่ะ”

“ก็นี่ไง พี่อยู่ตรงนี้แล้วไง ใจเย็นๆเล่าให้พี่ฟังนะ

น้องดามีปัญหาอะไร”

“น้องดารักพี่ภวัตค่ะ” พูดจบดารกาโน้มคอภวัตมาจูบโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว

จักรวาลกับปัทมนเพิ่งเก็บกวาดครัวเรียบร้อย เดินออกมาเห็นภาพสองคนจูบกันเข้าพอดีต่างตกตะลึง...จักรวาลรอจนภวัตกลับเข้า มาในบ้านเพื่อถามเรื่องราว ภวัตอ้อมแอ้มเล่าตามจริง

“ดีที่มีแค่แกกับพ่ออยู่กันสองคนนะ ถ้าคุณปัทมนเขามาได้ยินแกพูดถึงลูกสาวเขาอย่างนี้ แกคิดว่าเขาจะว่ายังไง...เราสองครอบครัวคบหากันมาตั้งแต่แกยังจำความไม่ได้ พ่อจะไม่ยอมให้เสียความสัมพันธ์เพราะเรื่องทำนองนี้เด็ดขาด” จักรวาลไม่เปิดโอกาสให้ภวัตโต้แย้ง ยื่นคำขาด ว่าต้องรับผิดชอบ

ภวัตกลัดกลุ้ม เข้ามานั่งในห้องโป่ง เพราะไม่รู้จะคุยกับใคร แต่ถ้าไม่ได้ระบายคงอกแตกตาย โป่งตกใจตื่น มานั่งฟังภวัตระบาย พอรู้เรื่องถึงกับอุทานว่า

“โอ...อาจารย์รู้เข้าอาละวาดตายเลย ตายๆๆยิ่งเป็นคนนี้ จารย์อาละวาดหนักเลย”

ภวัตทำหน้างงๆ โป่งบอกว่า อาจารย์หมายถึงแนนนี่ เพราะสอนมายากลตน โป่งไม่รู้จะออกความเห็นอะไร ภวัตถอนใจและว่าแค่ฟังเขาระบายก็พอ เพราะพ่อจะจับเขาหมั้นกับดารกา

ปัทมนเรียกดารกาไปพบในห้องพระ ดารกาตั้งใจจะเอาจดหมายมาลีให้อ่าน แต่พอถูกถามเรื่องตนกับภวัตจึงเก็บจดหมายไว้ ปัทมนถามว่ารู้สึกอย่างไรกับภวัต ดารกาสารภาพว่าตนรักภวัตมาก ปัทมนถอนใจเพราะต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ แต่ก็บอกดารกาให้ไว้ใจแม่...แนนนี่เดินผ่านห้องพระ ดารกาหน้าตาระรื่นออกมา ยิ้มทักยังไม่นอนหรือ แนนนี่งงถามจะมาไม้ไหน

“แนนนี่พูดอะไรพี่ดางงไปหมดแล้ว ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ถ้าแนนนี่รู้ข่าวดีของพี่ดากับพี่ภวัต แนนนี่คงอารมณ์ดีเอง”

“ข่าวดีอะไร บอกมานะ อ้อ...กะจะพูดให้แนนนี่อารมณ์เสียละสิ ไม่มีทาง ยัยพี่ดาเพ้อเจ้อ”

ดารกายิ้มยั่วก่อนจะเดินไป ปล่อยแนนนี่ยืนครุ่นคิดว่าเรื่องอะไร

ooooooo

วันรุ่งขึ้น บนโต๊ะอาหาร ดารกาเอาอกเอาใจปัทมนจนผิดสังเกต ธานีเห็นแล้วแปลกใจ ทำไมดารกา ไม่เสียใจเรื่องจดหมาย ส่วนแนนนี่คาใจเรื่องที่ดารกา พูดทิ้งไว้เมื่อคืน

“เมื่อคืนพี่ดาพูดว่ามีข่าวดีจะบอก ตกลงมันเรื่องอะไรเหรอคะ”

ปัทมนหน้าเจื่อนหันมากำชับดารกา “ไหนลูกดารับปากกับแม่แล้วไง”

“ไม่มีอะไรหรอกค่ะคุณแม่ น้องดาไม่เคยผิดคำพูด คุณแม่เชื่อน้องดานะคะ...ฟังอะไรผิดหรือเปล่าจ๊ะแนนนี่ พี่ไม่ได้พูดอย่างนั้นสักหน่อย”

“แนนนี่ได้ยินเต็มสองหูว่าพี่ดาพูดอย่างนั้น”

“อืม...ถ้างั้นพี่คงพูดผิดไปน่ะจ้ะ ขอโทษด้วยนะจ๊ะ”

ปัทมนตัดบทให้ทุกคนทานข้าว ป้าผาดเข้ามารายงานว่า ภวัตมารับดารกาแล้ว แนนนี่แปลกใจ ดารการีบลุกออกไป ธานีถามปัทมนว่าภวัตคบกับดารกาหรือ ปัทมนหน้าเครียดลง

แนนนี่ไม่เชื่อวิ่งตามมาถามภวัตที่รถ “พี่ภวัตกับ

พี่ดาคบกันเป็นแฟนเหรอคะ”

ภวัตหน้าเจื่อนตอบไม่ถูก ดารกาออกหน้าแทนบอกแนนนี่ว่า ตนกับภวัตมีโปรเจกต์การแพทย์ที่ต้องทำร่วมกันที่โรงพยาบาลหมอไชย จึงต้องอาศัยรถภวัตไปไหนมาไหนด้วยกัน แนนนี่ไม่เชื่อ ภวัตจึงเออออไปตามที่ดารกาพูด

ตลอดวัน แนนนี่ครุ่นคิดแต่เรื่องภวัตกับดารกา ปีเตอร์ชวนคุยอะไรก็ไม่สนใจ จนกระทั่งแนนนี่ชวนปีเตอร์ให้พาไปที่โรงพยาบาลที่ภวัตทำงาน...และแล้วก็ไป เจอกับบุษบาเข้าและมีเรื่องกัน ภวัตเข้ามาห้ามและให้แนนนี่ขอโทษบุษบา แต่แนนนี่ไม่ยอม ภวัตจึงให้แนนนี่มาขอโทษไชยแทน ในฐานะเจ้าของโรงพยาบาลและเป็นพี่ชายบุษบา ไชยเห็นแนนนี่ ก็พึงพอใจ ส่งสายตาเจ้าชู้ บุษบาปรามไม่ให้ยุ่ง แต่ไชยยอมรับว่าน่าสนใจทั้งพี่ทั้งน้อง

ภวัตพาแนนนี่มาคุยในห้องทำงาน แนนนี่พาลพะโลถามเรื่องบุษบา ภวัตเล่าว่าเป็นเพื่อนรุ่นน้องที่โน่นแต่อยู่คนละคณะกัน แนนนี่ขอให้ภวัตลาออก ภวัตหัวเราะ

“เกเรใหญ่แล้ว จะให้พี่ย้ายงานแค่เพราะแนนนี่ไม่ชอบเจ้าของโรงพยาบาลเนี่ยนะ”

ไม่ทันไร บุษบาตามมา ทำทียิ้มแย้มมาชวนไปทานข้าว แนนนี่หมั่นไส้ร่ายคาถาให้มีกำแพงโปร่งขวางไม่ให้เดิน มาใกล้ภวัต บุษบาชนตูมร้องลั่นกุมหน้าผาก ภวัตตกใจ

“ทำไมบวมปูดเลยล่ะ เกิดอะไรขึ้น”

“บุษ...บุษเหมือนกับเดินชนกำแพงน่ะค่ะ”

“สงสัยพี่ภวัตต้องเช็กประสาทคุณบุษบาแล้วล่ะค่ะ ไปล้มหน้าคะมำที่ไหนมาแล้วจำไม่ได้มากกว่ามังคะ ไม่ความจำเสื่อมก็แก่นั่นเอง ฮ่าๆๆๆ” แนนนี่หัวเราะแล้วเดินออกไป ก่อนไปแกล้งเสกรูปถ่ายตนกับภวัตวางไว้เต็มห้อง

บุษบาเหลือบไปเห็นโวยวายยกใหญ่ว่าที่นี่โรงพยาบาล ทำไมมีแต่รูปแบบนี้ ภวัตเองก็งง แถมมีรูปใหญ่บนผนัง เป็นภาพชุดแต่งงานระหว่างเขากับแนนนี่อีกด้วย

ooooooo
อ่านละครอสูรน้อยในตะเกียงแก้ว ตอนที่ 4

ภวัต ตามมาดึงแนนนี่ไว้ก่อนที่จะกลับไปกับปีเตอร์ ขอคุยตามลำพัง ปีเตอร์หน้าเหวอ ภวัตคาดคั้นถามว่า ทำอะไรบุษบา เพราะโป่งเคยเล่าให้ฟังว่า แนนนี่ ชอบสอนมายากล

“พี่ภวัตก็เลยคิดว่า แนนนี่ใช้มายากลแกล้งยัยบุษบามารศรีของพี่ภวัต ฮ่าๆๆทำยังงั้นได้ก็มีแต่แม่มดเท่านั้น

ละค่ะ แบร่...” แนนนี่ทำมือหลอก

“ทำไมชอบพูดถึงแม่มดนักนะเรา ล้อเล่นอย่างนี้น่ะ พี่ถึงกับเคยเก็บเอาไปฝันว่าแนนนี่ขี่ไม้กวาดตามเครื่องบินตอนไปอเมริกา”

“ตื่นขึ้นมาคนนั่งข้างๆหัวเราะพี่ภวัตใหญ่เลย” แนน–นี่เสริม

“เลิกนอกเรื่องซะที...พี่ไม่สนว่าเราจะแก้ตัวยังไง แต่อย่าให้มันเกิดขึ้นอีก ครั้งนี้เขาหัวบวมปูด แต่ถ้าครั้งหน้าเขาเจ็บตัวมากกว่านี้ แล้วเขาเอาเรื่องแนนนี่ขึ้นมาล่ะ จะทำยังไง”

“มีหลักฐานเล่นงานแนนนี่เหรอคะ”

“ยอมรับแล้วใช่มั้ยว่าเป็นคนทำ”

แนนนี่หาทางแก้ตัวด้วยการหงุดหงิดใส่ และว่าตนไม่มีวันไปขอโทษเด็ดขาด แนนนี่วิ่งหนีไปหาปีเตอร์ ควงแขนกลับไป ภวัตมองตามอย่างหนักใจ...ออกมาได้ แนนนี่ให้ปีเตอร์พาไปซื้อของในห้าง เธอเลือกเสื้อผ้าสวยๆ ปีเตอร์ถามว่าจะใส่แข่งกับแฟนภวัตหรือ แนนนี่ยิ่งโกรธ อย่างตนไม่จำเป็นต้องแข่งกับใคร เห็นๆอยู่ว่าเริดกว่า

“จริงจ้ะๆ แนนนี่ไม่ต้องแต่งอะไรเลยก็สวย ยิ่งถ้าใส่เครื่องเพชรที่ปีเตอร์ให้ไปละก็ต้องเหมือนเจ้าหญิงแน่ๆเลย”

“เครื่องเพชร...เครื่องเพชรอะไรของเธอ” แนนนี่งง

ปีเตอร์หมายถึงเครื่องเพชรที่แนนนี่เลือกให้คราวก่อน เขาใส่กระเป๋าให้เธอไป

“อีตาบ้าปีเตอร์...เครื่องเพชรราคาเป็นล้าน เอา มาหย่อนใส่กระเป๋าฉันได้ไงหา...ป่านนี้มิหายไปแล้วเหรอ แล้วฉันจะเอาปัญญาที่ไหนมาซื้อใช้นาย บ้าๆๆบ้าที่สุดเลย”

“หายก็ช่างมันสิ ปีเตอร์ซื้อให้ใหม่วันนี้เลยก็ได้”

แนนนี่อยากจะร้องกรี๊ด แต่ต้องกลั้นเสียงไว้เพราะอยู่กลางห้าง...

ooooooo

และแล้ว ดารกาตัดสินใจมาบ้านมาลี โดยอ้างว่ามาแทนดารกา เธอต้องการเห็นความเป็นอยู่ของแม่ แต่พอได้เห็นความซอมซ่อและรู้ว่ามาลีต้องการเงินไปใช้หนี้สองแสนบาท เธอถึงกับอึ้ง ระงับความโกรธตอบไปว่า ดารกาจะไปหาเงินที่ไหนมาให้ มาลีให้ขอจากแม่บุญธรรม

“เงินสองแสนเขาขอกันง่ายๆอย่างที่น้าพูดได้ก็ดีสิ”

“ก็แล้วแต่บุญแต่กรรมก็แล้วกัน ยังไงน้าก็รบกวนคุณช่วยคุยกับดารกาให้หน่อย บอกเขาว่าเจ้าหนี้ขู่จะฆ่าทั้งฉันแล้วก็พ่อดารกา ถ้าหาเงินไปคืนพวกมันไม่ได้”

“แล้วจะบอกให้ก็แล้วกัน” ดารกาสุดจะทน ลุกขึ้นจะกลับ

สดับในสภาพเปลือยท่อนบน มีเสื้อพาดบ่า กลิ่นเหล้าคละคลุ้งเดินเข้ามาจับไหล่ดารกา

“ดารกาลูกพ่อ...ลูกพ่อจริงๆด้วย”

ดารกายืนตัวแข็งทื่ออย่างรังเกียจ มาลีรีบดึงสดับ

ออก แล้วบอกว่าไม่ใช่ สดับจ้องหน้าดารกาอย่างไม่เชื่อ ดารกา แววตาหวาดผวารีบบอกว่า

“พวกคุณจะได้เงินที่ขอ แต่ต้องรับปากว่าจะไม่ไปที่บ้านดารกาอีก...อย่าไปที่นั่นเด็ดขาด”

พูดจบ ดารกาวิ่งออกมา จนมาถึงริมฟุตปาท เธอหยุดร้องไห้โฮด้วยความคับแค้นใจที่มีพ่อแม่อย่างสดับและมาลี เธอร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างไม่อายคนที่ผ่านไปมา...

รับปากไปแล้ว ดารกาก็ต้องหาเงินให้ได้ เธอตัดสินใจขโมยบัญชีเงินฝากที่ปัทมนฝากให้จากโต๊ะทำงานในห้องแนนนี่ พอดีแนนนี่เข้ามาเจอ

“พี่ดาเข้ามาค้นห้องแนนนี่ทำไม”

ดารกาคุมสติไม่มีวี่แววตกใจให้เห็น หันมาตอบว่า “คุณแม่ให้พี่มาเอาสมุดบัญชีธนาคารร่วมของเราสองคน เห็นท่านบอกว่าแนนนี่เอามาถ่ายเอกสารหน้าบัญชี แต่ก็ไม่เห็น เก็บคืนเข้าตู้”

แนนนี่ข้องใจทำไมแม่ไม่ทวงกับตน ดารกาให้ไปถามเองแต่ดักคอว่า “อ้อ คุณแม่ทราบเรื่องที่แนนนี่ไปก่อเรื่องวุ่นวายที่โรงพยาบาลแล้วนะ คุณบุษบาถึงกับหน้าผากบวมเลยนี่ ทางที่ดีพี่ดาว่าแนนนี่ยังไม่ควรกวนใจท่านเวลานี้”

แนนนี่ชะงักเถียงไม่ออก ได้แต่มองดารกาเดินออกไปอย่างงงๆ...

ooooooo

อ่านละครอสูรน้อยในตะเกียงแก้ว ตอนที่ 3-4 วันที่ 17 ม.ค.55
อสูรน้อยในตะเกียงแก้วออกอากาศทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ทุกวัน พุธ-พฤหัสบดี เวลา 20:25 น. ถึง 22:30 น.
ละครอสูรน้อยในตะเกียงแก้วโดย บทประพันธ์ของ โสภี พรรณราย
ละครอสูรน้อยในตะเกียงแก้วจากบทละครโทรทัศน์ทางช่อง 7 โดย ภาวิต/ฉายฉันท์
ที่มา ไทยรัฐ



Widget by Forex Trading | Business

0 comments:

Post a Comment

 
Powered by Blogger | Printable Coupons