อ่านละครต้มยำลำซิ่ง ตอนที่ 7
ทูนอินทร์ รุ้งระวี อินทร มะปราง และเจ๊จี่หอย กำลังปาร์ตี้กันอยู่ในห้องเป็นที่สนุกสนาน สักพักรุ้ง-ระวีก็เดินออกมาสูดอากาศที่ระเบียง สีหน้ายังหมกมุ่นกับเรื่องที่ผ่านมา
“รุ้งยังคิดถึงแม่อยู่เหรอครับ” ทูนอินทร์ตามออกมาคุยด้วย
“วันนี้มีเรื่องหลายเรื่องให้ต้องคิดค่ะ”
“อะไรบ้าง”
“ตอนที่มีเรื่องกับยายแจงกับเจ๊จวง นายคำเข้ามาดึงฉันออกมา...แล้วพูดข่มขู่ฉัน แวบนึง ฉันรู้สึกว่าฉันคุ้นกับน้ำเสียง สีหน้าของเขา เหมือนเคยเห็น เคยได้ยินที่ไหนมาก่อนแน่ๆ”“ใช่ รุ้งเคยบอกว่าเคยเห็นนายคำ แต่มันเป็นไปไม่ได้ เพราะรุ้งไม่ได้อยู่เมืองไทยนี่”
“หรือตั้งแต่สมัยเด็ก นายคำอาจจะเป็น...พ่อเลี้ยงฉัน”
“พ่อเลี้ยงที่ทำร้ายรุ้งกับแม่น่ะเหรอ แล้วจำได้ไหมว่าเขาชื่ออะไร”
“ลืมไปหมดแล้วค่ะ”
“ไม่เป็นไร ผมจะคอยระวังนายคนนี้ให้ดี แล้วจะลองสืบประวัติดู”
“ทูนคะตอนที่ฉันมีเรื่องกับยายแจง ตอนนั้นคุณอยู่ที่ไหน” รุ้งระวีซบลงที่ไหล่ชายหนุ่ม
“เออ...คือ ผมกำลังเตรียมกับช่างกล้องอยู่ที่หน้าเวทีน่ะครับ มีอะไรเหรอ”
“เปล่าค่ะ ถามดู เพราะตอนนั้นอยากจะเล่าเรื่องนายคำ แต่คุณไม่อยู่พอดี...มีอีกเรื่องที่อยากรู้ ทำไมคุณยังไม่หย่าจากฟ้าใสละคะ”
“เขาไม่ยอมหย่าครับ ผมว่าจะยื่นเรื่องกับศาลอยู่”
รุ้งระวีพยักหน้ารับรู้ แล้วเดินกลับเข้าไปหาเจ๊จี่หอยที่ร้องเรียกให้มาดูข่าวงานคอนเสิร์ตในทีวี
วันรุ่งขึ้น เสี่ยดำรงสั่งให้ฟ้าใสกับจ๊ะจ๋ามาพบที่บ้าน ฟ้าใสทำกระเง้ากระงอดบอกว่าไม่อยากมา เพราะไม่มีใครให้ความเคารพนับถือเธอเลย
“อย่าไปถือสาเลย จะถามเรื่องคอนเสิร์ตที่โคราช เห็นว่ามีคดีกับนายอิทธิกับรุ้งระวี เล่ามาซิเรื่องราวมันเป็นยังไง” เสี่ยดำรงสั่งนิ่งๆ
ฟ้าใสหน้าเจื่อนไปนิด แล้วรีบบีบน้ำตาแต่งเรื่องหลอกเสี่ยดำรงว่า ที่เธอทำไปทั้งหมดก็เพื่อปกป้องตัวเอง เพราะอิทธิกลั่นแกล้งเธอก่อน เล่นเอาจ๊ะจ๋าถึงกับอึ้ง แล้วก็อึ้งหนักขึ้นเมื่อเสี่ยดำรงหันมาถาม
“จริงรึเปล่า จ๊ะจ๋า”
“จะ...จริงค่ะ” จ๊ะจ๋าตอบออกไปแต่ไม่ยอมสบตาเสี่ย
เสี่ยดำรงพยักหน้าลูบหัวฟ้าใสอย่างเอ็นดู ฟ้าใสแอบยิ้มอย่างย่ามใจ
เวลาเดียวกันนั้น อิทธิก็เรียกรุ้งระวีมาต่อว่าเรื่องข่าวบันเทิงในหน้าหนังสือพิมพ์ ที่พากันลงว่าทูนอินทร์คือคนรู้ใจของเธอ
“แล้วทำไมคะ”
“นี่ไม่ได้แคร์เลยเหรอว่ามันเสียชื่อเสียง เราประกาศตัวแล้วว่าเรารักกัน มีโครงการแต่งงานกันในอนาคต แล้วรุ้งไปคบกับไอ้ทูนแบบนี้ ผมจะไปแก้ตัวกับสื่อว่ายังไง”
“ไม่ต้องแก้ บอกไปเลยค่ะว่าคุณกับรุ้งจบความสัมพันธ์กันแล้ว และรุ้งกำลังสร้างความสัมพันธ์ใหม่กับคุณทูน เพราะรุ้งรักเขา”
“แล้วผมล่ะ ผมที่ทุ่มเททุกอย่างให้คุณ”
“จริงเหรอคะ ที่คุณทุ่มเท มันคือผลประโยชน์คุณทั้งนั้น จริงใจหน่อยซีคะ อย่าให้ฉันจับโกหกคุณได้ อีกอย่างเรื่องการตามหาแม่ของฉันไง”
“ผมตามหาแม่คุณอยู่จริงๆ”
“ไม่จริง คุณถนัดนักกับการสร้างเรื่องเท็จ เอาละ ฉันมีเรื่องจริงที่บอกให้คุณรู้ จบจากคอนเสิร์ตที่สระบุรีฉันจะจบสัญญากับคุณเท่านี้ เพราะฉันจะไปเซ็นสัญญากับบริษัทเพลงคุณทูนกับพี่เมธ และจะเป็นศิลปินคนแรกของเขา”
“คุณกำลังทรยศผม ถ้ากล้าไปจากผม ผมฟ้องคุณแน่”
“แหม...ลืมความจริงไปอีกเรื่องแล้วนะคะ ฉันยังเก็บคลิปที่คุณข่มขืนฉันไว้นะ ปล่อยให้ลูกขุนในศาลดูคงสนุกพิลึก”
“นึกเหรอว่าเจ้าทูนมันรักคุณจริง มันยังตัดใจจากยายฟ้าไม่ได้หรอก”
“คุณรู้ได้ยังไง”
“ยายฟ้าบอกผม นายทูนกับยายฟ้าเห็นทะเลาะกันอย่างนั้น แต่ต่างฝ่ายต่างก็ยังติดใจรสสวาทของกันและกันอยู่ แถมยังรื้อฟื้นกันอยู่บ่อยๆด้วย”
“อย่าหูเบานักเลยค่ะ แล้วก็หัดอยู่ในโลกของความจริงบ้าง” รุ้งระวีทำเข้มแข็งลุกเดินหนีออกไป
อิทธิหัวเสียปัดหนังสือพิมพ์กระเด็นไป คมที่รออยู่หน้าห้องเข้ามาถามนายว่า จะให้จัดการอย่างไร
“จับตาดูไอ้ทูนเอาไว้ ถ้ามันจะคว้าชิ้นเนื้อฉันไป ได้เจอดีแน่” อิทธิยิ้มเหี้ยม
ooooooo
ด้านฟ้าใส เธอเข้าใจว่าเสี่ยดำรงเชื่อคำโกหกของเธอสนิทใจ เพราะนอกจากเสี่ยจะสั่งไม่ลงโทษเธอแล้ว ยังใจดีมอบสร้อยข้อมือประดับเพชรให้เป็นของขวัญอีกด้วย
“ลองใส่ดูเลยไหม ไปดูกระจกห้องโน้นเลย” เสี่ยดำรงชี้ไปที่ห้องๆหนึ่ง
“ค่ะ ค่ะ” ฟ้าใสคว้าสร้อยเพชรไปกับจ๊ะจ๋า
เสี่ยดำรงคลายยิ้มลงสีหน้ากลายเป็นเย็นชา เพราะถึงเวลาแล้วที่ฟ้าใสต้องได้รับบทเรียนเสียบ้าง และคนที่จะให้บทเรียนกับฟ้าใสก็คือเฉลา เมียเอกของเสี่ยนั่นเอง
เฉลาอุ้มหมาตัวเล็กเดินเข้ามาหาฟ้าใสในห้องพร้อมกับสาวใช้ และบังคับให้จ๊ะจ๋าถอดสร้อยข้อมือมาคืน แต่ฟ้าใสไม่ยอมให้จึงโดนสาวใช้ตบสั่งสอนตามคำสั่งของเฉลา
ฟ้าใสสิ้นฤทธิ์ยอมคืนสร้อยในที่สุด แต่เธอยังปากดีทวงถามความเป็นธรรม
“ป๋าให้ฉัน แกมาแย่งไปทำไม นังแก่”
“แน่ใจเหรอว่าป๋าเขาให้แกจริงน่ะ” เฉลาพูดเป็นนัย
ฟ้าใสชะงัก มองเฉลาอย่างงุนงงในคำพูด เธอวิ่งกลับไปหาเสี่ยดำรง
“ป๋า...เถ้าแก่เนี้ยมาแย่งสร้อยฟ้าไป เหมือนคราวสร้อยคอเลย ป๋าต้องจัดการนะคะ”
“จัดการไม่ได้หรอก เพราะเมียฉันเขาอยากได้สร้อยของเธอ เขาอยากได้ก็ต้องให้เขา”
“หมายความว่ายังไงป๋า แล้วป๋าเอามาให้หนูทำไม”
“ให้เธอจำไว้เป็นบทเรียนไง ว่าสิ่งที่เธอคิดว่าเป็นเจ้าข้าวเจ้าของน่ะ มันอาจอยู่กับเธอแค่ชั่วครู่เท่านั้น”
“ฟ้าไม่เข้าใจ”
“การที่เธอเป็นนักร้องดังประจำค่าย ไม่ได้หมายความว่าเธอมีสิทธิ์ทำอะไรตามใจชอบ เธอต้องทำตามกฎที่ฉันสั่งเท่านั้น ที่เธอเที่ยวไประรานชาวบ้านเขามันไม่ใช่วิสัยที่ศิลปินคุณภาพของค่ายฉันพึง กระทำ”
“ป๋า ฟ้าอธิบายแล้วไงว่าฟ้าถูกรังแกก่อน”
“เฮ้อ...ริจะโกหกน่ะ มันต้องแนบเนียนหน่อยนะหนู”
ฟ้าใสอึ้งไป เธอตัดสินใจใช้ไม้ตายเข้ากอดอ้อนเสี่ยดำรง
“ป๋า ป๋าไม่รักฟ้าแล้วเหรอ ถึงทำร้ายฟ้าได้ขนาดนี้”
“รักซี ยังรักอยู่ เพราะรักนี่ไงถึงต้องดัดนิสัย” เสี่ยดำรงดึงแขนของฟ้าออกไปอย่างละมุนละม่อม เมื่อเห็นเฉลาอุ้มหมาออกมา พร้อมกับสาวใช้
“เอ้า เถ้าแก่เนี้ยเขามาแล้วคงมีอะไรอบรมเธออีกเยอะ” ดำรงเดินออกจากห้องไป
ฟ้าใสยืนมึนน้ำตานองหน้า ส่วนจ๊ะจ๋ายืนตัวสั่น
“นี่เป็นอีกบทลงโทษนึงที่แกต้องจดจำไว้ อย่าเที่ยวแย่งของมีค่าของชาวบ้าน ไม่งั้นแกก็ต้องถูกแย่งกลับคืนแบบนี้ อ้อ ที่จริงสร้อยราคาเท่านี้ ฉันไม่ไว้ใส่เองหรอกนะ เสียมือฉัน นี่...ฉันไว้ให้น้องบาร์บี้ของฉันใส่” เฉลาเปิดผ้าที่พันคอหมาออก เผยให้เห็นว่าสร้อยเส้นนั้นอยู่บนคอของมัน
ทั้งฟ้าใสและจ๊ะจ๋าต่างตะลึง
“น้องบาร์บี้ ชอบไหมคะ ได้ใส่สร้อยราคาเป็นแสนๆ ไป...ไปอวดพี่ๆเขาดีกว่านะ” เฉลาเดินกรีดกรายพาน้องหมาออกไปจากห้อง
ฟ้าใสพยายามคุมสติเพราะสาวใช้ตัวแสบจ้องมองอยู่ เธอหันไปหยิบกระเป๋าถือจะเดินออก แต่เกิดอาการพะอืดพะอมต้องวิ่งเข้าห้องนํ้า จ๊ะจ๋ารีบวิ่งตามไปดูแล
ฟ้าใสอาเจียนจนหมดไส้หมดพุง จ๊ะจ๋าเข้ามาลูบหลังให้พลางปลอบใจ
“มันทำร้ายฉัน มันทำร้ายฉันทั้งผัวทั้งเมีย” ฟ้าใสร้องไห้คร่ำครวญดูน่าเวทนา
ooooooo
ทูนอินทร์กลับมาที่ไร่อินทร์สรวง เขาเริ่มแต่งเพลงใหม่ไว้รอรุ้งระวีที่กำลังจะหมดสัญญากับอิทธิส้มป่อยนำ อาหารกลางวันมาให้เจ้านาย จึงได้ยินชายหนุ่มนั่งฮัมทำนองเพลงอยู่ในเพิงแสงจันทร์
“เด้อ นางเดอ เด้อ นาง เดอ...เด้อ เด้อ นางเด้อ ลิงติง ลิงติง ลิงติง เซิ้งลำซิ่งให้ใจมันโล่ง เอ...แล้วยังไงต่อดีน้า” ทูนอินทร์ครุ่นคิด
“ต่อด้วย ลั้น ค่ะ นายขา ลั้น ที่แปลว่าอาหารกลางวันนะค่ะ วันนี้มีต้มยำปลากะพง กำลังร้อนๆเลยค่ะ” ส้มป่อยนำเสนอ
“ยังไม่หิว คิดเพลงไม่ออกยังไม่อยากกิน ลิงติง ลิงติง ลิงติง เซิ้งลำซิ่งใจมันโล่ง เอ...แล้วยังไงต่อดีน้า”
“ก็ต้องต่อด้วย ลงต่ง ลงโต๋ ลงต่ง ซีคะ”
“อะไรของแกส้มป่อย แกคิดอะไรของแก”
“ก็เพลงที่นายแต่งมันเป็นเพลงลำซิ่ง มันก็ต้องเป็นเสียงซึง เสียงแคนม่วนหลายนะคะ ลิงติง ลิงติ๊ง ลิงติ่ง ลงต่ง ลงโต๋ ลงต่ง อีกอย่างเพลงนี้นายร้องถึงผู้หญิงที่นายเลิฟใช่ไหมล่ะ”
“เอ๊ะ ช่างรู้ ช่าย...ฉันแต่งให้สาวคนรักน่ะ”
“ฮิฮิ อย่างนี้สาวคนรักเขาต้องร้องตอบว่า เด้อ อ้ายเด่อ เด้อ อ้ายเด่อเด้อ เด้อ อ้าย เดอ”
“แกจะให้สาวร้องตอบฉันด้วยเหรอ”
“ก็ต้องอย่างนั้นซีคะ เพลงนี้ต้องร้องโต้ตอบกัน ถึงจะแซบหลาย พูดเรื่องแซบ นายทานต้มยำก่อนเถอะค่ะ แล้วค่อยแต่งลำซิ่งต่อ สมองจะได้แล่นนะคะ”
ส้มป่อยจัดสำรับให้ ทูนอินทร์มองอาหารในถาดแล้วลองซดต้มยำดู
“อืมม์ แซบหลายจริงๆ”
“งั้น หนูไปนะคะ” ส้มป่อยขยับจะเดิน
ทูนอินทร์เรียกให้อยู่ช่วยแต่งเพลงต่อ เด็กหญิงว่า ภาระเยอะ เพราะวันๆเต็มด้วย อิ เวร
“หา...อะไร อิ...เวร”
“ก็งาน อิเวรที่พี่อั้ม พี่ชม พี่แอน เขาชอบไปออกรับทรัพย์อื้อซ่าไงคะ”
“อ้อ อีเวนต์ งานโชว์ตัว”
“นั่นละค่ะ” ส้มป่อยเดินฮัมเพลงท่อน ลิงติง ลิงติง และลงต่ง ลงต่งจากไป
ทูนหัวเราะขำแล้วซดต้มยำต่อ “อร่อยแฮะ กินต้มยำแล้วค่อยแต่งลำซิ่งต่อ” พลันไอเดียก็บรรเจิด
“งั้นเพลงนี้ ก็น่าจะชื่อ ต้มยำลำซิ่ง ฮ่วย นังส้มโว้ย ขอบใจมาก แกน่ารักมาก เลิฟยู คัก คัก โว้ย” ทูนอินทร์ตะโกนข้ามทุ่งแล้วแต่งเพลงต่ออย่างเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ
เวลาเดียวกันนั้น ที่ห้องอาหารในบริษัทอิทธิซาวด์
ขวัญข้าว อาชา เจ๊จวง และจุ๊บแจง รวมทีมนั่งเม้าท์รุ้งระวีว่าชอบแย่งสามีชาวบ้าน รุ้งระวีเข้ามาได้ยินพอดี เธอเดินไปที่ห้องนํ้าแล้วลากสายยางออกมาฉีดนํ้าล้างปากเน่าๆของพวกเจ๊จวง
ทั้งหมดกรีดร้อง อาชาพยายามจะลุกเข้าไปจัดการกับรุ้งระวี แต่อินทรเข้ามาขวางแล้วชกโครมเต็มหน้าอาชา ส่วนมะปรางกับเจ๊จี่หอยเข้ารุมเอาชามลาบกับส้มตำโปะลงบนหัวขวัญข้าว เจ๊จวง และจุ๊บแจง
ooooooo
ที่โคราช แสงหล้านำซีดีเพลงของรุ้งระวีที่แอบขโมยมาจากโส่ยมาให้ลุงที่อยู่เพิงข้างๆ ช่วยเปิดให้ฟัง ลุงถามแสงหล้าว่า เดี๋ยวนี้ไม่กินเหล้าแล้วหรือ
“เลิกหมดแล้วพี่ ตอนนี้ทำงานรับจ้างทุกอย่าง เก็บเงินอย่างเดียว จะเอาไปหาลูกน่ะ” แสงหล้ายิ้มอย่างมีความสุข แล้วพลันชะงักเพราะเหลือบไปเห็นคำรณยืนคุยกับคนเก็บขยะนายหนึ่ง
สักพักคนเก็บขยะก็ชี้มาที่ตึกร้างที่แสงหล้าพักอยู่ นางตกตะลึงเมื่อเห็นคำรณเดินมาที่ตึกร้าง จึงสั่งลุงปิดเพลงแล้วเอาผ้ามาคลุมปิดหน้าปิดตาก่อนลุกตามคำรณไป คำรณมาที่ที่พักของแสงหล้าและตรงเข้ารื้อค้นข้าวของ เห็นมีรูปถ่ายของรุ้งระวีและแสงหล้าที่เก่าจนลายเป็นสีแดงอยู่ในกล่อง
“นี่ละ หลักฐานชั้นดีเลย ฮ่ะฮ่ะ” คำรณเก็บรูปทั้งหมดใส่ถุงย่าม แล้วกวาดตามองไปรอบๆ ก็พบถ้วยรางวัลของแหม่มจ๋าที่ขึ้นสนิมวางอยู่ที่มุมห้อง
“ดีมากนังแสง ที่แกยังเก็บข้าวของของนังรุ้งไว้” คำรณเก็บถ้วยรางวัลลงย่ามอีก
“เอาของข้าคืนมานะ แกจะเอาพวกนี้ไปทำไม” แสงหล้าที่ซุ่มดูอยู่วิ่งเข้ามาพร้อมกับท่อนไม้
คำรณหันมาขู่ว่า ถ้าแสงหล้าไปยุ่งเกี่ยวรุ้งระวีอีก จะไม่รับประกันความปลอดภัยของรุ้งระวี
“ถ้าแกทำอะไรลูกข้า แกตาย เอาของของข้าคืนมา” แสงหล้าจะเข้าฟาดคำรณ แต่คำรณเข้ากระชากไม้จากมือของแสงหล้าโยนลงพื้นแล้วเหวี่ยงนางล้มลงไป แล้วก้มลงเก็บถ้วยรางวัล
จังหวะนั้นแสงหล้าหยิบไม้ที่หล่นพื้นขึ้นมา แล้วฟาดไปที่หัวของคำรณอย่างแรง คำรณเซไปนั่งทรุดกับพื้น แสงหล้าแย่งถุงจากคำรณแล้ววิ่งหนีออกไป
“อีแสง มึง” คำรณวิ่งตามออกมาแต่แสงหล้าหายไปแล้ว
“มึงตายแน่อีแสง” คำรณหันกลับไปในห้อง เห็นถ้วยรางวัลขึ้นสนิมยังตกอยู่ เขาหยิบมันขึ้นมาพลางบอกกับตัวเอง “อย่างน้อยก็เหลือของนังรุ้งให้ข้าละวะ เท่านี้ก็พอแล้ว”
ooooooo
อ่านละครต้มยำลำซิ่ง ตอนที่ 7 วันที่ 17 ม.ค.55
บทประพันธ์ละครเรื่องต้มยำลำซิ่งและบทละครโทรทัศน์ทางช่อง 3 โดย SANCTURY
ละครต้มยำลำซิ่ง ควบคุมการผลิตโดย : อรุโณชา ภาณุพันธุ์
ละครต้มยำลำซิ่ง ผลิตโดย : ค่าย บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น
ละครต้มยำลำซิ่ง ออกอากาศทุกวันจันทร์ - อังคาร เวลา 20.25 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ
ทูนอินทร์ รุ้งระวี อินทร มะปราง และเจ๊จี่หอย กำลังปาร์ตี้กันอยู่ในห้องเป็นที่สนุกสนาน สักพักรุ้ง-ระวีก็เดินออกมาสูดอากาศที่ระเบียง สีหน้ายังหมกมุ่นกับเรื่องที่ผ่านมา
“รุ้งยังคิดถึงแม่อยู่เหรอครับ” ทูนอินทร์ตามออกมาคุยด้วย
“วันนี้มีเรื่องหลายเรื่องให้ต้องคิดค่ะ”
“อะไรบ้าง”
“ตอนที่มีเรื่องกับยายแจงกับเจ๊จวง นายคำเข้ามาดึงฉันออกมา...แล้วพูดข่มขู่ฉัน แวบนึง ฉันรู้สึกว่าฉันคุ้นกับน้ำเสียง สีหน้าของเขา เหมือนเคยเห็น เคยได้ยินที่ไหนมาก่อนแน่ๆ”“ใช่ รุ้งเคยบอกว่าเคยเห็นนายคำ แต่มันเป็นไปไม่ได้ เพราะรุ้งไม่ได้อยู่เมืองไทยนี่”
“หรือตั้งแต่สมัยเด็ก นายคำอาจจะเป็น...พ่อเลี้ยงฉัน”
“พ่อเลี้ยงที่ทำร้ายรุ้งกับแม่น่ะเหรอ แล้วจำได้ไหมว่าเขาชื่ออะไร”
“ลืมไปหมดแล้วค่ะ”
“ไม่เป็นไร ผมจะคอยระวังนายคนนี้ให้ดี แล้วจะลองสืบประวัติดู”
“ทูนคะตอนที่ฉันมีเรื่องกับยายแจง ตอนนั้นคุณอยู่ที่ไหน” รุ้งระวีซบลงที่ไหล่ชายหนุ่ม
“เออ...คือ ผมกำลังเตรียมกับช่างกล้องอยู่ที่หน้าเวทีน่ะครับ มีอะไรเหรอ”
“เปล่าค่ะ ถามดู เพราะตอนนั้นอยากจะเล่าเรื่องนายคำ แต่คุณไม่อยู่พอดี...มีอีกเรื่องที่อยากรู้ ทำไมคุณยังไม่หย่าจากฟ้าใสละคะ”
“เขาไม่ยอมหย่าครับ ผมว่าจะยื่นเรื่องกับศาลอยู่”
รุ้งระวีพยักหน้ารับรู้ แล้วเดินกลับเข้าไปหาเจ๊จี่หอยที่ร้องเรียกให้มาดูข่าวงานคอนเสิร์ตในทีวี
วันรุ่งขึ้น เสี่ยดำรงสั่งให้ฟ้าใสกับจ๊ะจ๋ามาพบที่บ้าน ฟ้าใสทำกระเง้ากระงอดบอกว่าไม่อยากมา เพราะไม่มีใครให้ความเคารพนับถือเธอเลย
“อย่าไปถือสาเลย จะถามเรื่องคอนเสิร์ตที่โคราช เห็นว่ามีคดีกับนายอิทธิกับรุ้งระวี เล่ามาซิเรื่องราวมันเป็นยังไง” เสี่ยดำรงสั่งนิ่งๆ
ฟ้าใสหน้าเจื่อนไปนิด แล้วรีบบีบน้ำตาแต่งเรื่องหลอกเสี่ยดำรงว่า ที่เธอทำไปทั้งหมดก็เพื่อปกป้องตัวเอง เพราะอิทธิกลั่นแกล้งเธอก่อน เล่นเอาจ๊ะจ๋าถึงกับอึ้ง แล้วก็อึ้งหนักขึ้นเมื่อเสี่ยดำรงหันมาถาม
“จริงรึเปล่า จ๊ะจ๋า”
“จะ...จริงค่ะ” จ๊ะจ๋าตอบออกไปแต่ไม่ยอมสบตาเสี่ย
เสี่ยดำรงพยักหน้าลูบหัวฟ้าใสอย่างเอ็นดู ฟ้าใสแอบยิ้มอย่างย่ามใจ
เวลาเดียวกันนั้น อิทธิก็เรียกรุ้งระวีมาต่อว่าเรื่องข่าวบันเทิงในหน้าหนังสือพิมพ์ ที่พากันลงว่าทูนอินทร์คือคนรู้ใจของเธอ
“แล้วทำไมคะ”
“นี่ไม่ได้แคร์เลยเหรอว่ามันเสียชื่อเสียง เราประกาศตัวแล้วว่าเรารักกัน มีโครงการแต่งงานกันในอนาคต แล้วรุ้งไปคบกับไอ้ทูนแบบนี้ ผมจะไปแก้ตัวกับสื่อว่ายังไง”
“ไม่ต้องแก้ บอกไปเลยค่ะว่าคุณกับรุ้งจบความสัมพันธ์กันแล้ว และรุ้งกำลังสร้างความสัมพันธ์ใหม่กับคุณทูน เพราะรุ้งรักเขา”
“แล้วผมล่ะ ผมที่ทุ่มเททุกอย่างให้คุณ”
“จริงเหรอคะ ที่คุณทุ่มเท มันคือผลประโยชน์คุณทั้งนั้น จริงใจหน่อยซีคะ อย่าให้ฉันจับโกหกคุณได้ อีกอย่างเรื่องการตามหาแม่ของฉันไง”
“ผมตามหาแม่คุณอยู่จริงๆ”
“ไม่จริง คุณถนัดนักกับการสร้างเรื่องเท็จ เอาละ ฉันมีเรื่องจริงที่บอกให้คุณรู้ จบจากคอนเสิร์ตที่สระบุรีฉันจะจบสัญญากับคุณเท่านี้ เพราะฉันจะไปเซ็นสัญญากับบริษัทเพลงคุณทูนกับพี่เมธ และจะเป็นศิลปินคนแรกของเขา”
“คุณกำลังทรยศผม ถ้ากล้าไปจากผม ผมฟ้องคุณแน่”
“แหม...ลืมความจริงไปอีกเรื่องแล้วนะคะ ฉันยังเก็บคลิปที่คุณข่มขืนฉันไว้นะ ปล่อยให้ลูกขุนในศาลดูคงสนุกพิลึก”
“นึกเหรอว่าเจ้าทูนมันรักคุณจริง มันยังตัดใจจากยายฟ้าไม่ได้หรอก”
“คุณรู้ได้ยังไง”
“ยายฟ้าบอกผม นายทูนกับยายฟ้าเห็นทะเลาะกันอย่างนั้น แต่ต่างฝ่ายต่างก็ยังติดใจรสสวาทของกันและกันอยู่ แถมยังรื้อฟื้นกันอยู่บ่อยๆด้วย”
“อย่าหูเบานักเลยค่ะ แล้วก็หัดอยู่ในโลกของความจริงบ้าง” รุ้งระวีทำเข้มแข็งลุกเดินหนีออกไป
อิทธิหัวเสียปัดหนังสือพิมพ์กระเด็นไป คมที่รออยู่หน้าห้องเข้ามาถามนายว่า จะให้จัดการอย่างไร
“จับตาดูไอ้ทูนเอาไว้ ถ้ามันจะคว้าชิ้นเนื้อฉันไป ได้เจอดีแน่” อิทธิยิ้มเหี้ยม
ooooooo
ด้านฟ้าใส เธอเข้าใจว่าเสี่ยดำรงเชื่อคำโกหกของเธอสนิทใจ เพราะนอกจากเสี่ยจะสั่งไม่ลงโทษเธอแล้ว ยังใจดีมอบสร้อยข้อมือประดับเพชรให้เป็นของขวัญอีกด้วย
“ลองใส่ดูเลยไหม ไปดูกระจกห้องโน้นเลย” เสี่ยดำรงชี้ไปที่ห้องๆหนึ่ง
“ค่ะ ค่ะ” ฟ้าใสคว้าสร้อยเพชรไปกับจ๊ะจ๋า
เสี่ยดำรงคลายยิ้มลงสีหน้ากลายเป็นเย็นชา เพราะถึงเวลาแล้วที่ฟ้าใสต้องได้รับบทเรียนเสียบ้าง และคนที่จะให้บทเรียนกับฟ้าใสก็คือเฉลา เมียเอกของเสี่ยนั่นเอง
เฉลาอุ้มหมาตัวเล็กเดินเข้ามาหาฟ้าใสในห้องพร้อมกับสาวใช้ และบังคับให้จ๊ะจ๋าถอดสร้อยข้อมือมาคืน แต่ฟ้าใสไม่ยอมให้จึงโดนสาวใช้ตบสั่งสอนตามคำสั่งของเฉลา
ฟ้าใสสิ้นฤทธิ์ยอมคืนสร้อยในที่สุด แต่เธอยังปากดีทวงถามความเป็นธรรม
“ป๋าให้ฉัน แกมาแย่งไปทำไม นังแก่”
“แน่ใจเหรอว่าป๋าเขาให้แกจริงน่ะ” เฉลาพูดเป็นนัย
ฟ้าใสชะงัก มองเฉลาอย่างงุนงงในคำพูด เธอวิ่งกลับไปหาเสี่ยดำรง
“ป๋า...เถ้าแก่เนี้ยมาแย่งสร้อยฟ้าไป เหมือนคราวสร้อยคอเลย ป๋าต้องจัดการนะคะ”
“จัดการไม่ได้หรอก เพราะเมียฉันเขาอยากได้สร้อยของเธอ เขาอยากได้ก็ต้องให้เขา”
“หมายความว่ายังไงป๋า แล้วป๋าเอามาให้หนูทำไม”
“ให้เธอจำไว้เป็นบทเรียนไง ว่าสิ่งที่เธอคิดว่าเป็นเจ้าข้าวเจ้าของน่ะ มันอาจอยู่กับเธอแค่ชั่วครู่เท่านั้น”
“ฟ้าไม่เข้าใจ”
“การที่เธอเป็นนักร้องดังประจำค่าย ไม่ได้หมายความว่าเธอมีสิทธิ์ทำอะไรตามใจชอบ เธอต้องทำตามกฎที่ฉันสั่งเท่านั้น ที่เธอเที่ยวไประรานชาวบ้านเขามันไม่ใช่วิสัยที่ศิลปินคุณภาพของค่ายฉันพึง กระทำ”
“ป๋า ฟ้าอธิบายแล้วไงว่าฟ้าถูกรังแกก่อน”
“เฮ้อ...ริจะโกหกน่ะ มันต้องแนบเนียนหน่อยนะหนู”
ฟ้าใสอึ้งไป เธอตัดสินใจใช้ไม้ตายเข้ากอดอ้อนเสี่ยดำรง
“ป๋า ป๋าไม่รักฟ้าแล้วเหรอ ถึงทำร้ายฟ้าได้ขนาดนี้”
“รักซี ยังรักอยู่ เพราะรักนี่ไงถึงต้องดัดนิสัย” เสี่ยดำรงดึงแขนของฟ้าออกไปอย่างละมุนละม่อม เมื่อเห็นเฉลาอุ้มหมาออกมา พร้อมกับสาวใช้
“เอ้า เถ้าแก่เนี้ยเขามาแล้วคงมีอะไรอบรมเธออีกเยอะ” ดำรงเดินออกจากห้องไป
ฟ้าใสยืนมึนน้ำตานองหน้า ส่วนจ๊ะจ๋ายืนตัวสั่น
“นี่เป็นอีกบทลงโทษนึงที่แกต้องจดจำไว้ อย่าเที่ยวแย่งของมีค่าของชาวบ้าน ไม่งั้นแกก็ต้องถูกแย่งกลับคืนแบบนี้ อ้อ ที่จริงสร้อยราคาเท่านี้ ฉันไม่ไว้ใส่เองหรอกนะ เสียมือฉัน นี่...ฉันไว้ให้น้องบาร์บี้ของฉันใส่” เฉลาเปิดผ้าที่พันคอหมาออก เผยให้เห็นว่าสร้อยเส้นนั้นอยู่บนคอของมัน
ทั้งฟ้าใสและจ๊ะจ๋าต่างตะลึง
“น้องบาร์บี้ ชอบไหมคะ ได้ใส่สร้อยราคาเป็นแสนๆ ไป...ไปอวดพี่ๆเขาดีกว่านะ” เฉลาเดินกรีดกรายพาน้องหมาออกไปจากห้อง
ฟ้าใสพยายามคุมสติเพราะสาวใช้ตัวแสบจ้องมองอยู่ เธอหันไปหยิบกระเป๋าถือจะเดินออก แต่เกิดอาการพะอืดพะอมต้องวิ่งเข้าห้องนํ้า จ๊ะจ๋ารีบวิ่งตามไปดูแล
ฟ้าใสอาเจียนจนหมดไส้หมดพุง จ๊ะจ๋าเข้ามาลูบหลังให้พลางปลอบใจ
“มันทำร้ายฉัน มันทำร้ายฉันทั้งผัวทั้งเมีย” ฟ้าใสร้องไห้คร่ำครวญดูน่าเวทนา
ooooooo
ทูนอินทร์กลับมาที่ไร่อินทร์สรวง เขาเริ่มแต่งเพลงใหม่ไว้รอรุ้งระวีที่กำลังจะหมดสัญญากับอิทธิส้มป่อยนำ อาหารกลางวันมาให้เจ้านาย จึงได้ยินชายหนุ่มนั่งฮัมทำนองเพลงอยู่ในเพิงแสงจันทร์
“เด้อ นางเดอ เด้อ นาง เดอ...เด้อ เด้อ นางเด้อ ลิงติง ลิงติง ลิงติง เซิ้งลำซิ่งให้ใจมันโล่ง เอ...แล้วยังไงต่อดีน้า” ทูนอินทร์ครุ่นคิด
“ต่อด้วย ลั้น ค่ะ นายขา ลั้น ที่แปลว่าอาหารกลางวันนะค่ะ วันนี้มีต้มยำปลากะพง กำลังร้อนๆเลยค่ะ” ส้มป่อยนำเสนอ
“ยังไม่หิว คิดเพลงไม่ออกยังไม่อยากกิน ลิงติง ลิงติง ลิงติง เซิ้งลำซิ่งใจมันโล่ง เอ...แล้วยังไงต่อดีน้า”
“ก็ต้องต่อด้วย ลงต่ง ลงโต๋ ลงต่ง ซีคะ”
“อะไรของแกส้มป่อย แกคิดอะไรของแก”
“ก็เพลงที่นายแต่งมันเป็นเพลงลำซิ่ง มันก็ต้องเป็นเสียงซึง เสียงแคนม่วนหลายนะคะ ลิงติง ลิงติ๊ง ลิงติ่ง ลงต่ง ลงโต๋ ลงต่ง อีกอย่างเพลงนี้นายร้องถึงผู้หญิงที่นายเลิฟใช่ไหมล่ะ”
“เอ๊ะ ช่างรู้ ช่าย...ฉันแต่งให้สาวคนรักน่ะ”
“ฮิฮิ อย่างนี้สาวคนรักเขาต้องร้องตอบว่า เด้อ อ้ายเด่อ เด้อ อ้ายเด่อเด้อ เด้อ อ้าย เดอ”
“แกจะให้สาวร้องตอบฉันด้วยเหรอ”
“ก็ต้องอย่างนั้นซีคะ เพลงนี้ต้องร้องโต้ตอบกัน ถึงจะแซบหลาย พูดเรื่องแซบ นายทานต้มยำก่อนเถอะค่ะ แล้วค่อยแต่งลำซิ่งต่อ สมองจะได้แล่นนะคะ”
ส้มป่อยจัดสำรับให้ ทูนอินทร์มองอาหารในถาดแล้วลองซดต้มยำดู
“อืมม์ แซบหลายจริงๆ”
“งั้น หนูไปนะคะ” ส้มป่อยขยับจะเดิน
ทูนอินทร์เรียกให้อยู่ช่วยแต่งเพลงต่อ เด็กหญิงว่า ภาระเยอะ เพราะวันๆเต็มด้วย อิ เวร
“หา...อะไร อิ...เวร”
“ก็งาน อิเวรที่พี่อั้ม พี่ชม พี่แอน เขาชอบไปออกรับทรัพย์อื้อซ่าไงคะ”
“อ้อ อีเวนต์ งานโชว์ตัว”
“นั่นละค่ะ” ส้มป่อยเดินฮัมเพลงท่อน ลิงติง ลิงติง และลงต่ง ลงต่งจากไป
ทูนหัวเราะขำแล้วซดต้มยำต่อ “อร่อยแฮะ กินต้มยำแล้วค่อยแต่งลำซิ่งต่อ” พลันไอเดียก็บรรเจิด
“งั้นเพลงนี้ ก็น่าจะชื่อ ต้มยำลำซิ่ง ฮ่วย นังส้มโว้ย ขอบใจมาก แกน่ารักมาก เลิฟยู คัก คัก โว้ย” ทูนอินทร์ตะโกนข้ามทุ่งแล้วแต่งเพลงต่ออย่างเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ
เวลาเดียวกันนั้น ที่ห้องอาหารในบริษัทอิทธิซาวด์
ขวัญข้าว อาชา เจ๊จวง และจุ๊บแจง รวมทีมนั่งเม้าท์รุ้งระวีว่าชอบแย่งสามีชาวบ้าน รุ้งระวีเข้ามาได้ยินพอดี เธอเดินไปที่ห้องนํ้าแล้วลากสายยางออกมาฉีดนํ้าล้างปากเน่าๆของพวกเจ๊จวง
ทั้งหมดกรีดร้อง อาชาพยายามจะลุกเข้าไปจัดการกับรุ้งระวี แต่อินทรเข้ามาขวางแล้วชกโครมเต็มหน้าอาชา ส่วนมะปรางกับเจ๊จี่หอยเข้ารุมเอาชามลาบกับส้มตำโปะลงบนหัวขวัญข้าว เจ๊จวง และจุ๊บแจง
ooooooo
ที่โคราช แสงหล้านำซีดีเพลงของรุ้งระวีที่แอบขโมยมาจากโส่ยมาให้ลุงที่อยู่เพิงข้างๆ ช่วยเปิดให้ฟัง ลุงถามแสงหล้าว่า เดี๋ยวนี้ไม่กินเหล้าแล้วหรือ
“เลิกหมดแล้วพี่ ตอนนี้ทำงานรับจ้างทุกอย่าง เก็บเงินอย่างเดียว จะเอาไปหาลูกน่ะ” แสงหล้ายิ้มอย่างมีความสุข แล้วพลันชะงักเพราะเหลือบไปเห็นคำรณยืนคุยกับคนเก็บขยะนายหนึ่ง
สักพักคนเก็บขยะก็ชี้มาที่ตึกร้างที่แสงหล้าพักอยู่ นางตกตะลึงเมื่อเห็นคำรณเดินมาที่ตึกร้าง จึงสั่งลุงปิดเพลงแล้วเอาผ้ามาคลุมปิดหน้าปิดตาก่อนลุกตามคำรณไป คำรณมาที่ที่พักของแสงหล้าและตรงเข้ารื้อค้นข้าวของ เห็นมีรูปถ่ายของรุ้งระวีและแสงหล้าที่เก่าจนลายเป็นสีแดงอยู่ในกล่อง
“นี่ละ หลักฐานชั้นดีเลย ฮ่ะฮ่ะ” คำรณเก็บรูปทั้งหมดใส่ถุงย่าม แล้วกวาดตามองไปรอบๆ ก็พบถ้วยรางวัลของแหม่มจ๋าที่ขึ้นสนิมวางอยู่ที่มุมห้อง
“ดีมากนังแสง ที่แกยังเก็บข้าวของของนังรุ้งไว้” คำรณเก็บถ้วยรางวัลลงย่ามอีก
“เอาของข้าคืนมานะ แกจะเอาพวกนี้ไปทำไม” แสงหล้าที่ซุ่มดูอยู่วิ่งเข้ามาพร้อมกับท่อนไม้
คำรณหันมาขู่ว่า ถ้าแสงหล้าไปยุ่งเกี่ยวรุ้งระวีอีก จะไม่รับประกันความปลอดภัยของรุ้งระวี
“ถ้าแกทำอะไรลูกข้า แกตาย เอาของของข้าคืนมา” แสงหล้าจะเข้าฟาดคำรณ แต่คำรณเข้ากระชากไม้จากมือของแสงหล้าโยนลงพื้นแล้วเหวี่ยงนางล้มลงไป แล้วก้มลงเก็บถ้วยรางวัล
จังหวะนั้นแสงหล้าหยิบไม้ที่หล่นพื้นขึ้นมา แล้วฟาดไปที่หัวของคำรณอย่างแรง คำรณเซไปนั่งทรุดกับพื้น แสงหล้าแย่งถุงจากคำรณแล้ววิ่งหนีออกไป
“อีแสง มึง” คำรณวิ่งตามออกมาแต่แสงหล้าหายไปแล้ว
“มึงตายแน่อีแสง” คำรณหันกลับไปในห้อง เห็นถ้วยรางวัลขึ้นสนิมยังตกอยู่ เขาหยิบมันขึ้นมาพลางบอกกับตัวเอง “อย่างน้อยก็เหลือของนังรุ้งให้ข้าละวะ เท่านี้ก็พอแล้ว”
ooooooo
อ่านละครต้มยำลำซิ่ง ตอนที่ 7 วันที่ 17 ม.ค.55
บทประพันธ์ละครเรื่องต้มยำลำซิ่งและบทละครโทรทัศน์ทางช่อง 3 โดย SANCTURY
ละครต้มยำลำซิ่ง ควบคุมการผลิตโดย : อรุโณชา ภาณุพันธุ์
ละครต้มยำลำซิ่ง ผลิตโดย : ค่าย บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น
ละครต้มยำลำซิ่ง ออกอากาศทุกวันจันทร์ - อังคาร เวลา 20.25 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ
0 comments:
Post a Comment