Sunday, January 15, 2012

อ่านละครมือปราบพ่อลูกอ่อน ตอนที่ 2-3 วันที่ 17 ม.ค.55

อ่านละครมือปราบพ่อลูกอ่อน ตอนที่ 2
กริสน์ตกใจร้องเฮ้ย! ส่วนพิมมาดาถึงกับหัวเราะท้องคัด ท้องแข็ง บอกว่าถ้าหน้าตาแบบนี้เป็นตำรวจ ตนก็เป็นนายก- รัฐมนตรีได้แล้ว ทุกคนพากันหัวเราะไม่มีใครเชื่อจีจ้า

กริสน์คิดหนักว่าจะทำยังไงดี ตัดสินใจ โทร.ปรึกษาภัทรดนัย พอรู้เรื่องภัทรดนัยก็จัดแจงทำประวัติปลอมของกริสน์ทันที ปลอมเอกสารทุกอย่างครบถ้วน

เมื่อได้เอกสารแล้ว กริสน์เอาไปยื่นให้พิมมาดา

พิจารณา ชื่อและนามสกุล ปรากฏชัดเจนว่า “นายกริสน์ จิตแจ่มใส” พิมมาดาดูแล้วบอกว่าแก่กว่าตนแค่ปีเดียว แล้วตรวจเอกสารทั้งด้านการงานและการเกณฑ์ทหาร พอถึงการศึกษาเธออ่านเสียงดัง “จบปริญญาเอกเหรอ” ทั้งยังได้รับรางวัลลูกกตัญญูด้วย เป็นนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทยได้เหรียญทองซีเกมส์ด้วย

พิมมาดามาสะดุดตรงที่ว่า เขาเคยได้รับเกียรติบัตรผู้ทำคุณงามความดีแก่เยาวชนประจำปี...พลิกดูมีหลาย ใบมาก พิมมาดาถามทึ่งว่า “นี่นายได้ทุกปีเลยเหรอ”

อ่านประวัติของกริสน์แล้ว ทีแรกพิมมาดาก็ทำท่าจะเชื่อ แต่ความดีเด่นและเกียรติบัตรต่างๆ มีมากเกินไปจนกลายเป็นสงสัย บอกทุกคนที่ร่วมรับรู้ตอนนั้นว่า ถ้ามีดีมากมายขนาดนี้น่าจะมีลงในอินเตอร์เน็ต พูดพลางลุกไป

กริสน์ตัวชาวาบ รีบกดโทรศัพท์ถึงภัทรดนัย พอปลายสายรับ เขาโวยเบาๆ แต่เครียดว่า

“ไอ้ภัทรดนัย...แก...แก...ไอ้ตัวดี แฟ้มประวัติที่แกทำให้ฉันน่ะสิ เป็นเรื่องแล้ว!”

กริสน์พยายามกีดกัน ถ่วงเวลาไม่ให้พิมมาดาไปเช็กประวัติของตนทางอินเตอร์เน็ต เมื่อไม่สำเร็จก็แกล้งสะดุดสายไฟจนคอมพิวเตอร์ดับไป แต่เขาก็ถูกเต๋ากับเต้ยล็อกตัวไว้ตามคำสั่งของพิมมาดาที่บอกว่า เป็นคนมีพิรุธน่าสงสัย

ooooooo

ภัทรดนัยได้รับโทรศัพท์จากกริสน์แล้วก็รีบ

ออกไปที่ร้านเบเกอรี่ฝั่งตรงข้าม วิ่งหาอินเตอร์เน็ต แล้วก็ลงมือทำงานอย่างเร็ว

ฝ่ายกริสน์ เมื่อถูกล็อกตัวก็พยายามทำใจเย็นสู้เสือ พิมมาดาเช็กในอินเตอร์เน็ตแล้วไม่พบข้อมูลใดๆ ของกริสน์เลย ยิ่งเชื่อว่าเขาหลอกลวง กริสน์ถ่วงเวลา บอกให้เธอลองเช็กใหม่ถึง 3 ครั้งจึงเจอ

ปรากฏว่าเจอข้อมูลประวัติของเขาเพียบ! โชว์ขึ้นมาเป็นตับๆ ตับๆ ตับๆ

เค้กที่มาชะโงกดูอยู่ถึงกับอุทานว่า เขาเป็นคนดีจริงๆ กริสน์แอบถอนใจโล่งอกเหมือนรอดตายมาได้หวุดหวิด...เฮ้อ...

ooooooo

สุขสันต์ยังไปพูดเตือนและขู่อธิปอีก 3 ครั้ง แต่ก็ไม่อาจเปลี่ยนใจอธิปได้ เขาบอกจตุพลว่า

“ผมทำครบ 3 หนแล้ว ให้โอกาสเขา 3 หน ตามที่ผมตั้งปณิธานไว้ว่า ก่อนจะลงมือทำอะไรใคร ผมต้องตักเตือนเขาให้ครบ 3 หนก่อน”

สุขสันต์บอกจตุพลให้ลงมือได้เลย ให้เขาพิสูจน์ตัวเองได้ ว่าเขาพร้อมจะเป็นคนของตนจริงๆ จตุพลพูดอย่างผยองว่ารับรองว่าสุขสันต์จะสะใจกับสิ่งที่ตนจะทำกับกู๋ของตัว เอง

ขณะจตุพลเดินร้องเพลงออกไป น้อมพงษ์พูดกับเขาว่า

“ไอ้สุขสันต์นี่มันโรคจิตจริงๆนะคุณจตุพล ผมว่ามันต้องไม่ใช่คนธรรมดา แต่มันคือวิตถารเลยแหละ คบหาไว้เป็นสหายได้จริงๆ”

ooooooo

ที่คฤหาสน์ของอธิป อธิปกำลังเล่นตี่จับอยู่กับโอปอล์ ครู่หนึ่งบอกว่าป๊าวิ่งไม่ไหวแล้ว พอดีจตุพลเดินมาหา บอกว่าได้เวลาทานยาบำรุงแล้ว อากู๋จะทานที่นี่หรือจะเข้าไปทานในบ้าน

เสี่ยอ้อนโอปอล์ให้ไปเอายาให้ป๊าหน่อย พอโอปอล์ วิ่งไป เสี่ยถามจตุพลว่าที่มานี่ไม่ใช่เรื่องยาอย่างเดียวใช่ไหม

“ครับ...คือผมกลับไปคิดๆดู ตอนนี้ไอ้กริสน์ทรยศไปแล้ว ร้านขนมที่อากู๋จะเปิดก็ยังไม่มีคนดูแล ผมเลยคิดว่าจะขอกลับมาดูแลร้านขนมเองครับ”

อธิปถามว่า ไหนตอนนั้นบอกว่าอยากดูแลผับไม่ใช่หรือ จตุพลทำหน้าเศร้าพูดอย่างเป็นห่วงว่า

“ผมก็ยังอยากทำผับครับ แต่ผมก็ทิ้งให้อากู๋ทำงานคนเดียวไม่ได้หรอกครับ ยิ่งเห็นสิ่งที่ไอ้กริสน์มันทำกับอากู๋ด้วย ผมทิ้งอากู๋ไม่ได้หรอกครับ ยังไงอากู๋ก็เป็นญาติ

คนเดียวของผม อากู๋ไว้ใจผมได้เลยครับ”

โอปอล์เอายามาพอดี จตุพลรับยาไปรินใส่แก้วยกขึ้นดมๆก่อนส่งให้อธิป

“ขอบใจ” อธิปรับยาไปดื่มจนหมดแก้วแล้วส่งแก้วคืนให้ “แหม...ไอ้ยาบำรุงนี่มันดีจริงๆกินปุ๊บมีแรงปั๊บ”

“อากู๋ไม่ต้องเครียดเรื่องไอ้กริสน์มันนะครับ ผมอาสาจะจัดการให้เอง แล้วยาบำรุงนี่ หมดเมื่อไหร่ผมจะเอามาให้ใหม่”

“ขอบใจ...ขอบใจจตุพล สุดท้าย เลือดก็ย่อมข้นกว่าน้ำจริงๆ” อธิปพูดอย่างซึ้งใจ...

ooooooo

จตุพลไปโรงงานทำขนม น้อมพงษ์แนะนำสมุนหน้าใหม่แก่จตุพลว่า

“ไอ้พวกนี้ ผมคัดมาเองกับมือ รับรองว่าไว้ใจได้ทุกคน ใช้ให้ทำอะไรทำหมด บุกน้ำลุยไฟมันทำให้ได้ทุกอย่าง ขอแค่จ่ายเงินมันดีๆ”

“ดี...เรื่องเงินไม่มีปัญหา ขอแค่ให้ซื่อสัตย์ก็พอ” พูดพลางน้อมพงษ์เดินไปที่โต๊ะ กดเปิดคอมฯดูรูปโปรไฟล์คนงานและแฟ้มประวัติปรากฏขึ้นมา น้อมพงษ์คลิกให้ดูทีละคน พลางเล่า “นี่ คือคนงานทั้งหมดที่อยู่ในโรงงานตอนนี้ ข้าเก่าเต่าเลี้ยงเสี่ยอธิปทั้งนั้น คุณจตุพลเลือกดูเอาเลยครับว่าอยากจะเอาใครไว้หรือเอาใครออก แล้วผมจะจัดการให้”

“ไอ้พวกที่มีแนวโน้มจะเป็นคนดี ปากมาก ไล่ออกไปให้หมด!” จตุพลคลิกดู แล้วเอาเมาส์ชี้ “ไอ้นี่เอาออก...

ไอ้นี่เอาออก...” ชี้และบอกแล้วจตุพลยิ้มเหี้ยมที่มีความหมายมากกว่าการให้ออก

ooooooo
อ่านละครมือปราบพ่อลูกอ่อน ตอนที่ 3
เมื่อพวกเด็กๆรุมกันลุ้นแกมบีบบังคับจนพิมมาดาท่าทีอ่อนลงแล้ว กริสน์แอบลากพวกเด็กๆไปทำข้อตกลงกันข้างนอก จัดแจงจะแจ้งกติกาข้อตกลง แต่เด็กหัวหมอพวกนี้ไม่ยอม อ้างว่ากริสน์เป็นคนนอก ฉะนั้นต้องรับปากพวกตนก่อน กริสน์ยอม ถามว่ามีอะไรให้ว่ามา

“พี่ต้องช่วยปกป้องน้าพิมจากคุณสุขสันต์และต้องทำให้น้าพิมตาสว่างด้วย” โจ๊กเสนอขึงขัง

“ได้...ฉันรับปาก แต่พวกเธอต้องร่วมมือกับฉันด้วย พวกเธอต้องช่วยให้ฉันได้ใกล้ชิดนายสุขสันต์เยอะๆ แล้วถ้ามีอะไรเกี่ยวกับนายสุขสันต์ที่แปลกๆ น่าสงสัยหรืออะไรก็แล้วแต่ ต้องเอามาบอกให้ฉันรู้ ตกลงไหม”

“ตกลง” สามเสียงตอบพร้อมกันอย่างเข้มแข็ง จริงจัง

ทุกคนยื่นมือออกไปวางซ้อนกันไม่เว้นแม้แต่เจ้าป๊อปคอร์น เป็นสัญญาสุภาพบุรุษที่ไม่ต้องมีลายลักษณ์อักษร ไม่ต้องมีลายเซ็นมีแต่ฝ่ามือที่สัมผัสกันอุ่นๆ

ooooooo

แต่เมื่อพิมมาดาเรียกประชุม เธอมีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร เป็นทางการที่ต้องเซ็นชื่อไว้เป็นหลักฐานทุกคน เธอเรียกมันว่า สัญญาเปลี่ยนพฤติกรรมเด็กๆ ยื่นหนังสือสัญญาแล้วเธอก็ร่ายยาวถึงพฤติกรรมที่กริสน์ต้องทำให้เด็กๆ เปลี่ยนคือ

“เด็กๆต้องมีระเบียบวินัย มีความรับผิดชอบ ไม่สร้างปัญหา สอบติดหนึ่งในสิบของห้อง ไม่ทะเลาะกับเพื่อน ไม่มีปัญหากับโรงเรียน ไม่ถูกทัณฑ์บน ไม่ถูกเชิญผู้ปกครอง ไม่พูดหยาบ ไม่ก้าวร้าว มีนํ้าใจ มีมารยาท เคารพผู้ใหญ่ ช่วยงานบ้าน มีนิสัยประหยัด ซื่อสัตย์ อดทน”

กริสน์ฟังจนหูชาแล้วพูดประชดว่า “ต้องมีรอบคอบ รู้คิด มีจิตสาธารณะด้วยสิครับ ว้าว...นี่ท่าทางพวกนายจะเป็นเด็กนิสัยเทพๆๆๆมากๆๆๆอยู่แล้วสิเนี่ย” กริสน์หัวเราะหยันๆ

กริสน์ทำท่าจะถอดใจ เด็กๆเลยปรามาสว่ากลัวก็บอกมาดิ กริสน์ฮึดขึ้นมาถามว่าจะให้เซ็นชื่อตรงไหน พิมมาดา

บอกว่าปั๊มนิ้ว กริสน์ยอมปั๊มนิ้วทันที พวกเด็กๆถูกสั่งให้ปั๊มกันทุกคน จากนั้นเธอบอกกริสน์ว่า

“ทั้งหมดนี่ นายมีเวลารวมทั้งสิ้นหนึ่งเดือน”

กริสน์โพล่งออกไปว่า “หนึ่งเดือน จะบ้าเหรอ” พิมมาดาเอาลายนิ้วมือที่ปั๊มมาผูกมัด ขู่ว่าแล้วห้ามต่อรอง แล้วตัดบทว่า “เอาล่ะ ให้เริ่มสัญญาข้อเก้าได้เลย”

บรรดาคู่สัญญามองหน้ากันเลิ่กลั่ก พิมมาดาเรียกเต๋ากับเต้ยปฏิบัติการได้แล้ว ทั้งสองออกมาล็อกกริสน์ทันที เขาถามว่าอะไรกัน สัญญาข้อเก้าคืออะไร จีจ้าอ่านเสียงใสว่า

“พี่เลี้ยงเด็กจะต้องสะอาดสะอ้าน ไม่มีหนวดเครา ไม่มีผมเผ้ารกรุงรัง ทั้งต้องตัดผมทุกสัปดาห์ด้วย”

“ตัดผม...ไม่ๆๆๆๆ” กริสน์แผดเสียงราวกับจะถูกจับเชือด

ooooooo

พิมมาดาสั่งเต้ยกับเต๋าว่า เต็มที่เลยนะ ตนจะไปรอดูตอนเสร็จแล้ว พูดแล้วเดินไปเลย กริสน์ตะโกนด่าตามหลังไปปาวๆ แต่ในที่สุดก็ถูกเต๋ากับเต้ยจัดการทั้งผมและหนวดเคราเรียบร้อย ท่ามกลางเสียงครางฮือๆของกริสน์ตลอดเวลา

“เสร็จแล้วค่ะ” เต้ยบอกเสียงห้าวๆ

“ขอเชิญทุกคนพบกับพี่เลี้ยงเด็กคนใหม่...คุณกริสน์...” เต๋าผายมือท่าอ่อนช้อย

พวกเด็กๆพากันโผล่หน้ามาดู จีจ้ายกแม่โป้งให้

ไอดอลของตน โจ๊กปล่อยก้ากๆๆ ส่วนแจ๊สทำมองเมินอย่างไม่สนใจ แต่พอเค้กมาเห็นถึงกับร้องเพลงบุพเพสันนิวาสเคลิ้มไปเลย

กริสน์เดินมายืนตรงหน้าพิมมาดา เหมือนนักเรียนเดินมาให้ครูตรวจ ถามว่า “ผมหล่อสะใจคุณแล้วใช่ไหมครับ”

“อื้อ...เอ๊ย...ก็งั้นๆแหละ เชอะ!” พิมมาดากลับลำแทบไม่ทัน แล้วรีบเดินไปปกปิดความเก้อเขินของตัวเอง กริสน์เลยเชอะ! ใส่บ้าง

ooooooo

ปฏิบัติการดัดนิสัยเริ่มแต่คํ่าวันนี้เลย กริสน์ใช้นกหวีดเป็นสัญญาณแทนคำสั่ง คํ่านี้จึงมีเสียงนกหวีดแสบแก้วหูไปทั้งบ้าน

กริสน์ไม่ชอบเด็กเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อต้องมาฝึกเด็ก (เหลือขอ) ถึงสามคนในเวลาเดียวกัน จึงเป็นบททดสอบที่สุดหินสุดโหด เพียงคืนแรก เขาก็เหนื่อยแทบขาดใจ

เมื่อต้อนเด็กๆไปนอนแล้ว เขาจึงมีเวลาพิมพ์ข้อความส่งถึงภัทรดนัย บอกว่า

“แผนเอ ลุล่วง ต่อไปแผนบี ขอให้นายสุขสันต์เข้ามาในระยะประชิดยัยเจ๊โหดกว่านี้ก่อนนะเพื่อน”

รุ่งขึ้น กว่าจะปลุก 3 คน กับ 1 หมาให้ตื่นได้ ก็เป่านกหวีดเสียคอแทบแตก ครั้นขับรถพาไปโรงเรียน ก็เหมือนจับปูใส่กระด้ง เขาขับรถไปอย่างปวดหัวจนเส้นโลหิตสมองแทบแตก
แต่กริสน์ก็มีความอดทน อดกลั้นอย่างยอดเยี่ยม เพื่อภารกิจที่จะสืบเรื่องของสุขสันต์ให้ได้

ooooooo

เช้านี้ ที่โต๊ะอาหารคฤหาสน์เสี่ยอธิป เสี่ยกับโอปอล์ทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว เสี่ยกำลังจะไปส่งโอปอล์ไปโรงเรียนใหม่ที่เพิ่งย้ายมา เสี่ยสั่งจตุพลที่นั่งกินข้าวด้วยกันว่า

“เดี๋ยวฉันจะเข้าไปที่โรงงานสายหน่อยนะ ฝากดูแลแทนด้วย หมู่นี้คนงานมีทั้งหน้าแปลกๆ และก็แปลกหน้า ฉันไม่อยากให้มีพวกเหล่าร้ายมาแฝงอยู่ในโรงงาน”

“ในโรงงานเราจะมีใครร้ายไปกว่าหัวหน้าแก๊งอย่างกู๋อีกเหรอครับ” จตุพลพูดจนทุกคนเงียบกริบหมด โอปอล์ถามว่าป๊าตนร้ายยังไงหรือ จตุพลหัวเราะลั่นออกมาบอกว่า “อาแกล้งพูดเล่น พูดให้ตลกป๊าจะได้หายเครียดฮ่ะๆๆ”

โอปอล์ชวนเสี่ยไปกันเถอะ น้อมพงษ์เอ่ยขึ้นว่า “นายอธิป อย่าลืมดื่มยาบำรุงครับ” พลางรีบยกแก้วยาสีดำให้เสี่ยรับไปดื่มรวดเดียวหมดเกลี้ยง แล้วโอบไหล่โอปอล์เดินออกไป เดชช่วยหิ้วกระเป๋าให้โอปอล์ตามไป

จตุพลหน้ายังเปื้อนยิ้มอยู่ แต่พอเสี่ยเดินพ้นไปแล้วเท่านั้น หน้าที่ยิ้มแย้มก็กลายเป็นโหดไปทันที!

ooooooo

ที่ห้องเสริมสวยบ้านสุขสันต์ เจ้าตัวกำลังนอนให้คนสระผมอยู่ อีกคนก็ทาเล็บเคลือบมันให้อย่างประณีต ระหว่างนั้นเขาคุยโทรศัพท์กับจตุพลอย่างอารมณ์ดี ถามจตุพลว่าเริ่มภารกิจพิสูจน์ตัวเองให้ตนเห็นหรือยัง

“ผมเริ่มให้ยาบำรุงสูตรพิเศษกับอากู๋แล้วครับ ยานี้มันจะค่อยๆออกฤทธิ์ไปเรื่อยๆ ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตแน่ ส่วนทางมิสเตอร์แฮมฟาย เขาอีเมล์มาว่า ของพร้อมแล้วนะครับ เหลือแต่รอคำสั่งจากท่านเท่านั้น”

“บอกแฮมฟายว่า อีกสามวันเอาของเข้ามาได้เลย เพราะฉันจะเตรียมทางสวยๆซอฟต์ๆไว้ให้” สุขสันต์พูดพลางกรีดนิ้วดูเล็บที่เพิ่งทาเสร็จ

แพรวพิลาสได้ยินประโยคหลังเดินเข้ามาถามว่าอะไรสวย อะไรซอฟต์หรือ พลางเดินเข้ามาบอกว่าซื้อผลิตภัณฑ์ไวเทนนิ่งล้วนๆตัวใหม่มาให้ สุขสันต์ไม่พูดอะไร แต่คุยกันครู่หนึ่งเขาถามว่าเธอชอบดอกไม้ไหม ตนจะทำธุรกิจนำเข้าดอกไม้นอก บอกเธอว่า ให้เลือกไปแต่งบ้านท่านหัวหน้าพรรคทุกวัน หรืออยากมีทางเดินที่ปูด้วยกลีบกุหลาบตนก็จะจัดให้

แพรวพิลาศบอกว่า ตนมีทางที่จะดึงสตางค์จากพรรคของพ่อมาได้อีกทางแล้ว จะให้พ่อบังคับนักการเมืองในพรรคว่าจะส่งดอกไม้ไปให้ใคร ต้องมาสั่งที่ร้านเขาเท่านั้น พวกนักการเมืองส่งดอกไม้กันทั้งปี แบบนี้เราก็จะรวยกันใหญ่แล้ว

ระหว่างนั้น ฉัตรชัยแอบดูอยู่ สีหน้ามีเลศนัยบางอย่างขึ้นทันที

ooooooo

กริสน์ขับรถพาเด็กๆไปส่งโรงเรียน พอครูฟ้าใสเห็นกริสน์เท่านั้น ก็ถึงกับเพ้อ...

“โอว...สมาร์ท แมน แฮนด์ซัม ลํ่าหล่ออออ ฮูอาร์ ยู คะ”

กริสน์มึนไปชั่วครู่กับอาการของครูฟ้าใส หลังจากแนะนำชื่อเสียงเรียงนามกันแล้ว แจ๊สพูดแทรกนิ่มๆหน้านิ่งๆ ว่า

“ชอบพูดไทยคำ อังกฤษคำ แต่สอนไม่รู้เรื่องเอาซะเลย” พูดจบแจ๊สเดินเข้าไปหน้าตาเฉย

ทันใดนั้น ภัทรดนัยในคราบพ่อค้าซาลาเปาก็บีบแตรเป็นรหัส กริสน์ได้ยิน จึงขอตัวจากครูฟ้าใสไปหา ทำทีไปซื้อซาลาเปาให้เด็กๆ

กริสน์เดินออกไปเห็น รปภ.กันรถกันคนเปิดทางให้รถหรูของเมทินีเข้ามาจอด เมทินีก้าวลงจากรถราวกับนางพญา

“อีคุณหญิงรถคันหน้านี่มันจะนวยนาดไปไหนวะ

ลงจากรถไม่เสร็จซะที” เสี่ยอธิปบ่นเพราะรถถูกกันไว้เหมือนกัน

ที่กำแพงข้างโรงเรียนนั่นเอง มีใครบางคนซุ่มอยู่ ใช้กล้องในมือถือถ่ายรูปเมทินีที่นวยนาดลงจากรถ

ooooooo

กริสน์ไปที่รถขายซาลาเปา ถามเป็นรหัสว่า “พี่ซาลาเปาว่าไง”


ภัทรดนัยตอบเป็นรหัสว่า “ได้แล้ว แต่คราวนี้ไม่สึก ไม่หอม ไม่เห็น”

ระหว่างนั้นเด็กๆมารอซื้อซาลาเปามองหน้ากริสน์กับภัทรดนัยงง ว่าพูดอะไรกัน

“เฮ่ย...แล้วแบบนี้จะได้กินไหม” กริสน์ถามอีก

“ไม่รู้เหมือนกัน แต่อีกสามวันจะเอามาเสิร์ฟ”

เด็กๆพวกนั้นมองหน้าทั้งสองอ้าปากหวอ

“แล้วยกมายังไง ใครยกมา” กริสน์ถามต่อ

“มีแต่ไส้หนูตาบอด กับไส้แมงสาบหูหนวก”

พวกเด็กๆวงแตก แยกย้ายกันไปแหวะเอาเป็นเอาตาย คราวนี้ทั้งกริสน์และภัทรดนัยกลายเป็นฝ่ายงงแทน...แล้วภัทรดนัยก็พูดอย่างโล่งใจว่า

“ไปซะได้ก็ดีแล้ว ฉันจะได้พูดกับแกแบบเคลียร์ๆซะที”

“โอเค...สรุปว่าจะมีการเอายาเข้ามาในอีกสามวันนี้ใช่ไหม? แล้วไอ้ยานี่ก็เป็นยาชนิดใหม่ที่ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ต้องพิสูจน์ในห้องแล็บเท่านั้นใช่ไหม? ที่สำคัญคือยังหาตัวคนอยู่เบื้องหลังไม่ได้...และยิ่งไปกว่านั้นคือ ยังไม่รู้อีกต่างหากว่าพวกมันจะนำเข้ามาทางไหน...”

ปรากฏว่ากริสน์ถอดรหัสออกมาได้ถูกหมด แต่กริสน์กลับโวยว่า

“เฮ้ย...นี่แกมีข้อมูลอะไรบ้างวะเนี่ยไอ้ดนัย?!?”

“ถ้ารู้ข้อมูลได้ง่ายๆแกจะต้องเสี่ยงชีวิตมาสืบแบบนี้เหรอ แกต้องรีบแล้วนะไอ้กริสน์ เพราะถ้ายาลอตแรกมันเล็ดลอดเข้ามาได้ ประเทศไทยแย่แน่”

พูดแล้วภัทรดนัยส่งถุงซาลาเปาให้กริสน์ เขารับแล้วรีบเดินไป รถสปอร์ตของเสี่ยอธิปเสียบเข้ามาทันที เดชลดกระจกลง ยื่นหน้าออกมาสั่งว่า เหมาซาลาเปาทั้งหมด ภัทรดนัยรู้สึกคุ้นหน้าเดช อึดใจต่อมาอธิปก็สั่งเหมาขนมจีบทั้งหมด

ภัทรดนัยชะงักเมื่อเห็นอธิป เดชตะคอกมาว่าไม่ได้ยินเสี่ยสั่งหรือ เร็วเข้าเสี่ยจะเหมาไปเลี้ยงนักเรียนเพราะลูกสาวเสี่ยเพิ่งย้ายโรงเรียนมา ภัทรดนัยรีบส่งซาลาเปากับขนมจีบให้ พึมพำอย่างเป็นห่วงกริสน์...

“นายอธิป มาทำอะไรที่นี่ ไอ้กริสน์...ซวยแล้วเพื่อน...”

ooooooo

ที่ถนนหน้าโรงเรียน เมทินีสาวใหญ่วัย 40 แต่งตัวสีสันจัดจ้าน เสื้อผ้าหน้าผมเนี้ยบทุกระเบียดนิ้ว มาส่งปาล์มลูกชายหัวแก้วหัวแหวนแต่งหล่อสุดฤทธิ์สุดเดช เดินเก๊กลงมากับแม่

เมทินีชมลูกชายตัวเองว่าหล่อที่สุดเลย เธอพูดโดยที่ปากแทบไม่ขยับเพราะเพิ่งไปฉีดโบทอกซ์มา ร่ำลากันอย่างสุดซึ้งแล้ว ปาล์มเดินเท่เข้าไป ผ่านพวกนักเรียนหญิงพากันกรี๊ดสนั่น
เมทินีสะกิด รปภ.บอกว่า “นี่ๆดูซิว่าลูกชายฉันเท่ขนาดไหน แค่เดินผ่านสาวๆก็กรี๊ดกันแล้ว”

รปภ.สะกิดเมทินีว่า ที่นักเรียนหญิงกรี๊ดนั้น เพราะปาล์มเหยียบขี้หมา แต่ปาล์มก็ยังเดินอย่างเท่ไม่รู้ตัว

“ตายแล้วลูกปาล์ม!” เมทินีร้องอย่างตกใจ

ระหว่างนั้นเอง เมทินีก็ร้องเสียงดังว่าชายคนข้างๆ แอบถ่ายกางเกงในตน ชายคนนั้นพยายามชี้แจงว่าตนไม่ได้เป็นโรคจิตแต่ทำด้วยความทรงจำดีๆ

ชี้แจงแล้วชายคนนั้นวิ่งอ้าวไปเลย เมทินีร้องโวยวายให้ช่วยกันจับชายโรคจิตคนนั้น

กริสน์หิ้วถุงซาลาเปาผ่านมาพอดี เขาวิ่งไล่กวดชายคนนั้นไป สวมบทพระเอกได้อย่างสุดเท่...

ooooooo

เมทินีใส่รองเท้าส้นสูงวิ่งไล่ตามชายโรคจิตไป ส้นรองเท้าเสียบลงไปในตะแกรงท่อระบายน้ำจนเซจะล้ม กริสน์พุ่งมารับไว้ทัน เมทินีอยู่ในอ้อมกอดของกริสน์ กอดเขาไว้แน่นจนแกะไม่ออก ลืมชายโรคจิตไปสนิทใจ

กริสน์ร้องให้ปล่อยเดี๋ยวตามหมอนั่นไม่ทันแล้วรูปเปลือยของคุณป้าก็จะว่อนใน โซเชียลเน็ตเวิร์ก กระนั้นเมทินีก็ไม่ยอมเพราะเสียดายความรู้สึกดีๆตอนนี้ กริสน์เลยแกล้งซุกไซ้ เมทินีตกใจแต่ไม่ปล่อย แต่ชายโรคจิตทนไม่ได้ วิ่งย้อนกลับมา ร้องตะโกน

“คุณป้าที่รักของผมไปกอดกับคนอื่นนนน...ทน ไม่ได้...”

ชายโรคจิตพุ่งเข้าหากริสน์ เขาพยายามสลัดเมทินีออก แต่ถูกเมทินีกอดไว้แน่น กริสน์เลยจำต้องจับร่างเมทินีเหวี่ยงเป็นวงกลมกันหมัดของชายโรคจิต ปรากฏว่าเท้าของเมทินีเหวี่ยงตรงเป้าชายโรคจิตเข้าเต็มๆ มันกุมเป้าจุกหน้าเขียวโดนเมทินีจิกหัวกระชากอย่างแรงอีก

สุดท้ายชายโรคจิตก็ถูกกริสน์ล่อเสียหมดสภาพล้มลง โทรศัพท์ที่แอบถ่ายเมทินีไว้หลุดจากมือ กริสน์พุ่งเข้าไปรับไว้ได้อย่างเท่ เมทินีในสภาพเสื้อผ้าหน้าผมยับเยิน ยิ้มปลื้มสุดๆ ชมเปาะ “พระเอกมากๆ...”

ooooooo

อ่านละครมือปราบพ่อลูกอ่อน ตอนที่ 2-3 วันที่ 17 ม.ค.55
โดย บทประพันธ์ สีชาติ จากบทละครโทรทัศน์ทางช่อง 3 โดย ศักดิ์ชาย เกียรติปัญญาโอกาส
ละครเรื่องมือปราบพ่อลูกอ่อน ติดตามชมได้ทาง ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ



Widget by Forex Trading | Business

0 comments:

Post a Comment

 
Powered by Blogger | Printable Coupons