อ่านละครดุจดาวดิน ตอนที่ 5
สายอุษาตัดบทว่ารีบไปเสียเดี๋ยวจะสาย ปานดาวก็เร่งให้รีบไปเถอะเดี๋ยวรถโรงเรียนมาคอย เพื่อนๆจะไม่พอใจเอา
“ลองว่าสิ...ผมจะต่อยให้กลิ้งเลย” ธัญวิทย์ทำท่าฮึดฮัด จนป้าแก้วกับสายอุษาสบตากัน สายอุษาเตือนปานดาวว่า ภูวดลไม่น่าสอนลูกอย่างนี้ สอนให้ไม่เรียน ไม่ทำงานแบบนี้มันไม่ดี
ปานดาวกินปูนร้อนท้องหาว่าแม่พูดประชดตนกับภูวดลว่าไม่ทำงาน สายอุษาพูดอย่างอ่อนใจว่าคิดเอง ตนไม่ได้พูดถึงภูวดลแต่พูดถึงธัญวิทย์ต่างหาก
ปานดาวหาเรื่องต่อทันที โทษว่าตนเป็นอย่างนี้เพราะพ่อกับแม่ ภูวดลพูดขัดขึ้นว่า
“เงียบเถอะครับคุณดาว พูดไปก็เปล่าประโยชน์ คุณแม่คุณไม่เคยเห็นคุณค่าในตัวเราสองคนหรอก”
สายอุษาฟังแล้วอ่อนใจ บอกป้าแก้วให้พาตนเข้าข้างใน ป้าแก้วรีบพาเข้าบ้านไปอย่างเข้าใจความรู้สึกของสายอุษาดี...
พิมจูงธัญวิทย์ไปรอรถโรงเรียนที่หน้าบ้าน พูดยุแหย่ว่า
“คุณน้าปานฟ้าของคุณธัญวิทย์น่ะเป็นคนไม่ดี แย่งทุกอย่างไปจากคุณพ่อคุณแม่ของคุณธัญวิทย์ ระวังเถอะ เงินทองทรัพย์สมบัติจะไม่เหลือตกถึงคุณธัญวิทย์ ต่อไปคุณธัญวิทย์จะต้องทำงานหนัก ไม่งั้นก็ต้องอดตาย...คุณธัญวิทย์เคยเห็นขอทานตามข้างถนนไหมล่ะคะ”
“ผมไม่มีวันเป็นอย่างนั้นหรอก” ธัญวิทย์หน้าเครียด
พิมยิ้มอย่างสะใจ พอดีรถโรงเรียนมาพิมจึงพาธัญวิทย์ขึ้นรถไป
ooooooo
เช้านี้ ปานฟ้ารีบกลับมาเอาเอกสารเพื่อไปประชุม เดินผ่านแม่ที่นั่งอยู่ พอสายอุษาเรียก เธอขอโทษบอกว่ารีบไม่ทันเห็น สายอุษาถามถึงปานเดือนว่าเป็นอย่างไรบ้าง
“อยู่ในมือหมอแล้ว คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก พวกเราต้องช่วยกันเป็นกำลังใจให้พี่เดือนนะคะคุณแม่ ห่วงก็แต่จะมีใครบางคนทำให้พี่เดือนไม่สบายใจ”
พูดแล้วหันมองป้าแก้วที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ป้าแก้วหลบตาวูบอย่างมีพิรุธ จนปานฟ้าถามว่า
“ป้าแก้ว เกิดอะไรขึ้น เล่าให้ฟ้าฟังบ้างได้ไหมคะ”
ป้าแก้วไม่ทันพูดอะไร เสียงเติมบุญก็พูดจากข้างบนว่า
“ฉันก็อยากรู้ เรียกทุกคนมารวมกันที่นี่ดีกว่า”
ooooooo
ปานดาวหนาวๆร้อนๆ เรียกพิมไปปราม ขู่ว่าให้พูดดีๆอย่าให้ความเดือดร้อนทั้งหมดตกอยู่ที่ตนกับภูวดลเด็ดขาด ภูวดลรับรองแทนน้องสาวว่า ไม่ต้องห่วง เพราะเรื่องปั้นน้ำเป็นตัว พูดให้คนดีกลายเป็นคนชั่วแบบนี้พิมเก่งมาตั้งแต่เกิดแล้ว
“วางใจเถอะค่ะ ขออย่างเดียว พิมเป็นทัพหน้าคุณทั้งสองช่วยสนับสนุนพิมก็แล้วกัน” พิมรับรองแต่ก็ต้องการคนถือหางให้ตน
เมื่อไปพร้อมกันที่ห้องโถงแล้ว พิมกับป้าแก้วนั่งที่พื้นตรงหน้าทุกคน พิมปั้นหน้าเริ่มเล่าอย่างได้อารมณ์ว่า
“คุณอนิรุทธิ์แอบชอบพิมมานานแล้วล่ะค่ะ พิมสู้อุตส่าห์ไม่บอกเรื่องนี้กับใคร เพราะไม่อยากให้ทุกคนเดือดร้อน แต่คุณอนิรุทธิ์ก็ไม่ยอมหักห้ามใจ...มันก็เลยเกิดเรื่องขึ้นมา...” พิมทำเป็นก้มหน้าเสียงเครือ
ปานฟ้าโต้ทันทีว่า อนิรุทธิ์ไม่ใช่คนอย่างนั้น อย่าใส่ร้ายกัน ก็ถูกปานดาวสวนไปทันทีว่า ไหนว่าต้องการความจริง พอพิมพูดความจริงก็หาว่าใส่ร้าย ตะคอกน้องว่า “ฉันอยากจะรู้ว่าเธอต้องการอะไรกันแน่”
ปานฟ้าบอกว่าต้องการความจริง ปานดาวตะคอกว่าพิมก็พูดความจริงแล้วไง ภูวดลแทรกขึ้นว่า พิมมีพยานคือป้าแก้ว
ทุกคนมองป้าแก้วขวับ ป้าแก้วอึกอัก เติมบุญบอกว่าให้พูดมาไม่ต้องกลัวใคร ตนเป็นประธานของบ้านไม่ต้องกลัว
ป้าแก้วบอกว่าเห็นพิมวิ่งออกจากห้องปานเดือน พิมแทรกทันทีว่า เพราะอนิรุทธิ์ฉุดตนเข้าไปในห้อง ตนต่อสู้ดิ้นรนจนวิ่งออกมาได้ ภูวดลมองหน้าปานฟ้ากับอนิรุทธิ์ ถามอย่างเป็นต่อว่า
“มีพยานรู้เห็นอย่างนี้ ยังจะสงสัยอะไรกันอีกล่ะ”
“เอาเถอะ ฉันจะฟังจากปากนายรุทธิ์อีกที เรื่องนี้ถือว่ายังไม่ยุติ” เติมบุญตัดบท
แต่ปานดาวไม่ยอมหาว่าพ่อไม่ยุติธรรม ถามว่าถ้าเป็นภูวดลก่อเรื่องแบบนี้ คุณพ่อคงไล่ออกจากบ้านไปแล้วใช่ไหม ตัดพ้อว่า พ่อรักลูกไม่เท่ากันไม่พอ ยังรักลูกเขยไม่เท่ากันอีก พาลไปถึงว่า
“นี่ถ้าเจ้าทินภัทรไม่หายไปจากบ้าน คุณพ่อคุณแม่ ก็คงรักหลานไม่เท่ากันอีกใช่ไหมล่ะคะ”
สายอุษาบอกให้ปานดาวหยุด ปานดาวไม่หยุด ปานฟ้าจึงพูดแทรกขึ้นว่า
“พี่ดาวคะ ฟ้าขอร้องค่ะ คุณพ่อไม่สบายพี่ดาวก็ทราบ”
ปานดาวตวาดปานฟ้าว่า ไม่ต้องมาทำตัวเป็นแม่พระแถวนี้ แน่จริงก็ไปโกนหัวบวชชีไปเลย แล้วหันชวนภูวดลออกไปกัน ตนทนอยู่ท่ามกลางคนไม่ยุติธรรมไม่ได้ ซึ่งภูวดลก็ลุกไปอย่างว่าง่ายตามแผนที่รู้กัน
เติมบุญหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน สายอุษารีบเข้าประคองถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า
“ฉันอยากไปหาปานเดือน ออกไปนอกบ้านบ้างคงดีกว่านี้”
“ค่ะคุณพ่อ ถ้างั้นฟ้าจะเลื่อนการประชุมไปเป็นตอนบ่ายค่ะ” ปานฟ้ารับคำมองเติมบุญด้วยความเป็นห่วง...
ooooooo
เช้าวันเดียวกัน อานนท์บอกภาคินว่าจะซื้อรถคันใหม่ให้เขาขับไปทำงาน ภาคินขอบคุณแต่ไม่ขอรับ อานนท์บอกอีกว่า อย่าทิฐิเพราะบ้านนี้ก็เป็นบ้านของเขา อย่างไรเสียตนก็ยังอยู่ ภาคินบอกตรงๆว่า ตนไม่อยากมีปัญหา
“งั้นแกใช้รถคันเก่าของพ่อไป พ่อจะซื้อคันใหม่ ห้ามปฏิเสธ ต่อไปนี้จะใช้รถจะได้ไม่ต้องขออนุญาตพ่อ”
ภาคินจำต้องยอมรับแต่ถูกวิมลวรรณเดินอ้าวเข้ามาพูดกับอานนท์ว่า
“อย่าบอกนะว่า รถคันใหม่ที่คุณจะซื้อน่ะซื้อให้ไอ้เด็กเหลือขอพ่อแม่ไปคนละทางอย่างมัน”
อานนท์บอกว่าตนตั้งใจซื้อให้ภาคินจริงๆ แต่เขาไม่รับเลยให้ใช้รถคันเก่าของตนแทน ก้องภพสอดแทรกทันทีว่า รถคันเก่าก็น่าจะให้ตนเอาไปขับเล่น เลยเกิดโต้เถียงกันขึ้นอีก สุดท้ายภาคินไม่ขอรับรถคันนั้น ส่งกุญแจรถคืน
“ไม่ได้! ถ้าแกไม่รับ แกก็ไม่ต้องนับถือว่าฉันเป็นพ่อ” อานนท์เสียงเข้ม จนภาคินจำต้องรับไว้
วิมลวรรณไม่พอใจมาก ด่าภาคินว่าจองหอง แล้วหันไปสั่งอานนท์ว่าต่อไปจะให้อะไรกันอีกก็ต้องปรึกษาตนก่อน อย่างน้อยตนก็เป็นเมียไม่ใช่เมียข้างถนนอย่าง “แม่มัน”
ooooooo
ระหว่างภาคินขับรถจะไปทำงานนั่นเอง เขาได้รับโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือจากปานฟ้า ให้พาบุญทิ้งไปที่โรงพยาบาล เพราะปานเดือนกำลังเศร้าซึมหนัก
เมื่อบุญทิ้งรู้ว่าภาคินจะไปโรงพยาบาลก็ตื่นเต้นดีใจบอกว่า
“พาผมไปนะครับ ผมอยากไปหาคุณเดือน ผมสงสารคุณเดือน”
เมื่อภาคินพาบุญทิ้งขึ้นรถ เขาดูแลหนูน้อยอย่างห่วงใย จนเฟื่องแก้วที่มายืนดูหน้าอยู่ เศร้าเมื่อนึกถึงว่าภาคินกำลังจะไปหาใคร แล้วก็หงุดหงิดขึ้นมาเมื่อตุลย์โผล่มาบอกว่า หิวมากมีอะไรให้รองท้องบ้าง
เฟื่องแก้วไม่มีใจให้ตุลย์อยู่แล้ว เมื่อเขามาทำหน้าทะเล้นพูดอ้อน ก็แสดงความรำคาญ จนตุลย์บอกว่า
“ถ้าคุณแก้วไม่อยากเห็นหน้าผม ผมก็จะไม่มาที่นี่อีกเลย จะย้ายไปประจำที่อื่น แล้วให้ตำรวจนายอื่นมาประสานงานกับมูลนิธิแทนผม”
“ขู่เหรอ” เฟื่องแก้วถามงอนๆ แล้วเดินนำไป ตุลย์แอบยิ้มหน้าทะเล้นที่ลูกเล่นตนได้ผล
ooooooo
ทุกคนที่บ้านพากันไปเยี่ยมปานเดือน ภูวดลวางแผนอุบาทว์จะทำให้ปานเดือนคลั่งอาละวาดต่อหน้าทุกคนให้ป่วนกันไปหมด พิมอาสาทันทีว่า ตนจัดการเอง
ระหว่างที่อนิรุทธิ์กำลังกล่อมให้ปานเดือนทานอาหารอยู่นั้น ปานเดือนขอให้เขาสัญญาว่าจะไม่ทำร้ายตนอีก อนิรุทธิ์ให้สัญญายืนยันว่าตนไม่มีวันทรยศต่อเธอไม่ว่าจะให้พูดกี่ครั้งตนก็ ยังพูดเหมือนเดิม ทำเหมือนเดิม
ทันใดนั้นเอง อนิรุทธิ์ก็ได้รับโทรศัพท์จากพิม ที่โทร.มาออดอ้อนทวงความเป็นผัวเมียกับเขา อนิรุทธิ์โมโหเอ่ยชื่อพิมเสียงดัง ปานเดือนชะงักทันที
อนิรุทธิ์ด่าพิมเสียงดัง ปานเดือนเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ ตวาดถามเสียงเขียวตาขวาง
“พิม...นังพิม...นังพิมมันโทร.มาใช่ไหม?!”
ปานเดือนอาละวาดปัดข้าวของกระจาย อนิรุทธิ์วางโทรศัพท์หันไปร้องเรียกปานเดือนเตือนสติ ส่วนพิมได้ยินเสียงเอะอะลอดเข้ามาทางโทรศัพท์ ก็หันบอกปานดาวกับภูวดลที่นั่งฟังอยู่อย่างสะใจว่า
“นังเดือนอาละวาดใหญ่เลยค่ะ”
พยาบาลรีบวิ่งเข้ามาในห้อง พูดด้วยความเป็นห่วงคนไข้ว่า
“ดิฉันบอกแล้วไงคะว่าอย่าทำให้คนไข้กระทบกระเทือนจิตใจ”
อนิรุทธิ์ยืนซึม มองดูพยาบาลที่กอดปานเดือนไว้อย่างปลอบใจ
ส่วนพวกปานดาว ก็สุมหัวกันหัวเราะอย่างสะใจ ต่างคาดหวังกันว่าถ้าปานเดือนเป็นอะไรไป ทั้งบ้านก็ต้องปั่นป่วนต่างหวังสมบัติที่จะตกเป็นของพวกตนในไม่ช้านี้
ooooooo
ปานฟ้าพาเติมบุญกับสายอุษาเข้ามาในโรง-พยาบาล เจอภาคินยืนอยู่กับบุญทิ้งที่หน้าลิฟต์ เติมบุญดีใจบอกว่า บุญทิ้งมาอย่างนี้อาการของปานเดือน คงจะดีขึ้น
“โชคดีจังนะคะ นี่ถ้ายัยเดือนหายนะ ยังไม่รู้จะตอบแทนคุณภาคินกับหนูบุญทิ้งยังไงดีเลย” สายอุษาเอ่ยอย่างชื่นชม
“ไม่ต้องหรอกครับ บุญทิ้งก็อยากมาหาคุณเดือน น่าแปลกนะครับ สองคนนี้ผูกพันกันเหมือนกับ...”
“เป็นแม่เป็นลูกกัน” เติมบุญต่อให้จากความรู้สึกของตัวเอง
พอดีลิฟต์มาจึงพากันเข้าลิฟต์ไป
แต่พอขึ้นถึงชั้นที่ปานเดือนอยู่ เจออนิรุทธิ์นั่งเศร้าอยู่แถวหน้าลิฟต์ ถามไถ่จึงรู้ว่า หมอบอกว่าต้องส่งตัวปาน-เดือนไปรักษาที่ศรีธัญญา ทุกคนช็อก แต่ภาคินเอ่ยขึ้นว่า
“ถ้าคิดในแง่ดี ก็จะทำให้คุณเดือนรักษาได้ถูกทางนะครับ ทางนี้อาจมีแต่แผนกจิตเวช รักษาอาการป่วยของคุณปานเดือนไม่ได้ผลพอ...”
ระหว่างนั้น บุญทิ้งเดินไปยืนร้องไห้ห่างออกไป ภาคินตามไปถามว่าเป็นอะไร หนูน้อยบอกว่าสงสารปานเดือน ภาคินได้แต่กอดปลอบใจ
ปานฟ้าถามอนิรุทธิ์ว่าปานเดือนจะต้องไปเมื่อไร
“วันนี้แหละครับ ประสานงานระหว่างโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว กำลังทำใบส่งตัวอยู่”
“กรรมเวรอะไรของยัยเดือนคะคุณ...” สายอุษาแทบจะหมดแรง
“ไม่ใช่กรรม ไม่ใช่เวรของยัยเดือนหรอก กรรมของเราต่างหาก” เติมบุญพูดแล้วสบตากับสายอุษาอย่างเข้าใจกัน...
ปานฟ้าไม่อยากให้พ่อกับแม่ต้องสะเทือนใจและเหน็ดเหนื่อยกว่านี้ บอกให้กลับไปพักที่บ้านดีกว่า ภาคินเห็นด้วย รับปากว่าทางนี้พวกตนจัดการเอง เสร็จแล้วค่อยไปเยี่ยมภายหลังก็แล้วกัน
“พี่ภาคินต้องให้ผมไปด้วยนะครับ” บุญทิ้งอ้อนวอนกลัวตัวเองจะไม่ได้เยี่ยมปานเดือนที่ต่างก็รู้สึกมีความผูกพันกันอย่างประหลาด
ooooooo
หลังจากปานฟ้าขับรถมาส่งพ่อกับแม่ที่บ้านแล้ว เธอขอตัวเพราะต้องรีบไปประชุมที่เลื่อนนัดมาเมื่อเช้านี้ ฝากป้าแก้วให้ช่วยดูแลแทนตนด้วย
ส่วนปานดาว พอเห็นพ่อกับแม่กลับมา ก็ทำทีมาถามว่าปานเดือนเป็นอย่างไรบ้าง เมื่อสายอุษาบอกว่าหมอจะส่งไปที่ศรีธัญญา ปานดาวก็สะใจจนเก็บไว้ไม่อยู่ ยิ้มในหน้า ถามว่าร้ายแรงขนาดนั้นเลยหรือ
“ฉันอยากรู้ว่าใครกันที่ทำให้ปานเดือนเป็นอย่างนี้” เติมบุญพูดขึ้นลอยๆ
ปานดาวกินปูนร้อนท้องหาว่าพ่อว่าตนเป็นเหตุให้ปานเดือนเป็นบ้า เติมบุญพูดดักคอว่าถ้าตัวเองไม่ได้ทำก็ไม่ต้องร้อนตัว ปานดาวยิ่งโวยวายพาลไปถึงเรื่องเดิมๆ ที่หาว่าพ่อกับแม่ลำเอียงรักแต่น้องไม่รักตนถามว่ายังเห็นตนเป็นลูกอยู่รึ เปล่า!
“หยุดนะยัยดาว เมื่อไหร่แกจะเลิกก้าวร้าวกับพ่อกับแม่เสียที เชื่อผัวจนหัวสมองแกนี่มีแต่คำว่าเนรคุณเต็มหัวแล้ว” สายอุษาปรามอย่างเหลืออด
พิมนิ่งฟังอย่างสะใจแต่พยายามนิ่งไว้ไม่ให้ใครสงสัย ส่วนป้าแก้วนั่งมองทุกคนด้วยความกังวล
“ใช่สิ...ดาวไม่ใช่ลูกที่พ่อแม่รักนี่ พูดอะไรก็ผิดหมด ทำไมไม่ยกนังเดือนกับนังฟ้าทูนไว้บนหัวเสียเลยล่ะคะ”
สายอุษาตบหน้าปานดาวอย่างแรง ตวาดปราม
“จำไว้ยัยดาว นรกมันจะกินหัวแก!”
ทันใดนั้น เติมบุญโรคหัวใจกำเริบ เขาหายใจหอบเหมือนขาดอากาศ ป้าแก้วตกใจร้องบอก สายอุษาโผเข้าเรียก
“คุณพี่...โทร.ตามหมอทีแก้ว”
พิมมองอยู่ พึมพำอย่างสะใจ
“อีกหน่อยก็คงตายกันหมดบ้าน...สะใจ!”
ooooooo
อ่านละครดุจดาวดิน ตอนที่ 6
ปานดาววิ่งขึ้นไปที่ห้องนอนกุมแก้มที่ถูกสาย-อุษาตบร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร ภูวดลเฝ้าปลอบโยนไม่ห่าง
“อย่าร้องเลยคุณดาว...นึกถึงชัยชนะเราสิ ตอนนี้มันใกล้เข้ามาแล้วนะ”
ปานดาวมองหน้าเชิงถาม ภูวดลชี้แจงว่า “อย่างน้อย นังเดือนก็ได้ไปอยู่โรงพยาบาลบ้าแล้ว ต่อให้มันหาย คนก็ยังเรียกมันว่าเป็นบ้าอยู่ดี พ่อแม่คุณดาวก็แก่มากแล้ว จะอยู่ได้อีกกี่ปี ทรัพย์สมบัติมหาศาลจะไปไหนเสีย คอยเล่นงานให้ประสาทกันทั้งบ้านแบบนี้แหละดี ไม่ต้องทำงานให้เหนื่อยเหมือน
น้องสาวคุณด้วย”
ฟังภูวดลแล้ว ปานดาวยิ้มออกมาทั้งน้ำตา...
ooooooo
ปานฟ้าไปประชุมกรรมการบริษัทที่ห้างเพื่อเตรียมงานประกวดวาดภาพหัวข้อ “ครอบครัวอุ่นรัก” จากการเสนอชื่อผู้มอบรางวัลครั้งนี้ เสียงส่วนใหญ่เห็นด้วยให้คุณศิริโสภาเป็นผู้มอบรางวัล เพราะมีภาพลักษณ์การทำงานเพื่อเด็กมาเป็นเวลานาน
ปานฟ้าจึงสรุปและปิดประชุม เพื่อกรรมการจะได้ไป ดูบริเวณที่ใช้จัดงาน เผื่อบางท่านอาจมีข้อเสนอแนะให้กับทางฝ่ายออกแบบฉากและดูแลสถานที่บ้าง
อ่านละครดุจดาวดิน ตอนที่ 5-6 วันที่ 16 ม.ค.55
ละครเรื่องดุจดาวดินบทประพันธ์โดย : โยษิตา
ละครเรื่องดุจดาวดินบทโทรทัศน์โดย : ภาคย์รพี, เอื้องอรุณ และไทสคริปท์
ละครเรื่องดุจดาวดินกำกับการแสดงโดย : เอกภพ ตันหยงมาศกุล
ละครเรื่องดุจดาวดิน ผลิตโดย : กันตนา
ละครเรื่องดุจดาวดินแนวละคร : ดราม่าเข้มข้น
ละครเรื่องดุจดาวดินออกอากาศ : วันพุธ-วันพฤหัสบดี เวลา 20.30 น.
ติดตามชมละครเรื่องดุจดาวดินออกอากาศทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
เริ่มออกอากาศตอนแรก : วันพุธที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2555
ที่มา ไทยรัฐ
สายอุษาตัดบทว่ารีบไปเสียเดี๋ยวจะสาย ปานดาวก็เร่งให้รีบไปเถอะเดี๋ยวรถโรงเรียนมาคอย เพื่อนๆจะไม่พอใจเอา
“ลองว่าสิ...ผมจะต่อยให้กลิ้งเลย” ธัญวิทย์ทำท่าฮึดฮัด จนป้าแก้วกับสายอุษาสบตากัน สายอุษาเตือนปานดาวว่า ภูวดลไม่น่าสอนลูกอย่างนี้ สอนให้ไม่เรียน ไม่ทำงานแบบนี้มันไม่ดี
ปานดาวกินปูนร้อนท้องหาว่าแม่พูดประชดตนกับภูวดลว่าไม่ทำงาน สายอุษาพูดอย่างอ่อนใจว่าคิดเอง ตนไม่ได้พูดถึงภูวดลแต่พูดถึงธัญวิทย์ต่างหาก
ปานดาวหาเรื่องต่อทันที โทษว่าตนเป็นอย่างนี้เพราะพ่อกับแม่ ภูวดลพูดขัดขึ้นว่า
“เงียบเถอะครับคุณดาว พูดไปก็เปล่าประโยชน์ คุณแม่คุณไม่เคยเห็นคุณค่าในตัวเราสองคนหรอก”
สายอุษาฟังแล้วอ่อนใจ บอกป้าแก้วให้พาตนเข้าข้างใน ป้าแก้วรีบพาเข้าบ้านไปอย่างเข้าใจความรู้สึกของสายอุษาดี...
พิมจูงธัญวิทย์ไปรอรถโรงเรียนที่หน้าบ้าน พูดยุแหย่ว่า
“คุณน้าปานฟ้าของคุณธัญวิทย์น่ะเป็นคนไม่ดี แย่งทุกอย่างไปจากคุณพ่อคุณแม่ของคุณธัญวิทย์ ระวังเถอะ เงินทองทรัพย์สมบัติจะไม่เหลือตกถึงคุณธัญวิทย์ ต่อไปคุณธัญวิทย์จะต้องทำงานหนัก ไม่งั้นก็ต้องอดตาย...คุณธัญวิทย์เคยเห็นขอทานตามข้างถนนไหมล่ะคะ”
“ผมไม่มีวันเป็นอย่างนั้นหรอก” ธัญวิทย์หน้าเครียด
พิมยิ้มอย่างสะใจ พอดีรถโรงเรียนมาพิมจึงพาธัญวิทย์ขึ้นรถไป
ooooooo
เช้านี้ ปานฟ้ารีบกลับมาเอาเอกสารเพื่อไปประชุม เดินผ่านแม่ที่นั่งอยู่ พอสายอุษาเรียก เธอขอโทษบอกว่ารีบไม่ทันเห็น สายอุษาถามถึงปานเดือนว่าเป็นอย่างไรบ้าง
“อยู่ในมือหมอแล้ว คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก พวกเราต้องช่วยกันเป็นกำลังใจให้พี่เดือนนะคะคุณแม่ ห่วงก็แต่จะมีใครบางคนทำให้พี่เดือนไม่สบายใจ”
พูดแล้วหันมองป้าแก้วที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ป้าแก้วหลบตาวูบอย่างมีพิรุธ จนปานฟ้าถามว่า
“ป้าแก้ว เกิดอะไรขึ้น เล่าให้ฟ้าฟังบ้างได้ไหมคะ”
ป้าแก้วไม่ทันพูดอะไร เสียงเติมบุญก็พูดจากข้างบนว่า
“ฉันก็อยากรู้ เรียกทุกคนมารวมกันที่นี่ดีกว่า”
ooooooo
ปานดาวหนาวๆร้อนๆ เรียกพิมไปปราม ขู่ว่าให้พูดดีๆอย่าให้ความเดือดร้อนทั้งหมดตกอยู่ที่ตนกับภูวดลเด็ดขาด ภูวดลรับรองแทนน้องสาวว่า ไม่ต้องห่วง เพราะเรื่องปั้นน้ำเป็นตัว พูดให้คนดีกลายเป็นคนชั่วแบบนี้พิมเก่งมาตั้งแต่เกิดแล้ว
“วางใจเถอะค่ะ ขออย่างเดียว พิมเป็นทัพหน้าคุณทั้งสองช่วยสนับสนุนพิมก็แล้วกัน” พิมรับรองแต่ก็ต้องการคนถือหางให้ตน
เมื่อไปพร้อมกันที่ห้องโถงแล้ว พิมกับป้าแก้วนั่งที่พื้นตรงหน้าทุกคน พิมปั้นหน้าเริ่มเล่าอย่างได้อารมณ์ว่า
“คุณอนิรุทธิ์แอบชอบพิมมานานแล้วล่ะค่ะ พิมสู้อุตส่าห์ไม่บอกเรื่องนี้กับใคร เพราะไม่อยากให้ทุกคนเดือดร้อน แต่คุณอนิรุทธิ์ก็ไม่ยอมหักห้ามใจ...มันก็เลยเกิดเรื่องขึ้นมา...” พิมทำเป็นก้มหน้าเสียงเครือ
ปานฟ้าโต้ทันทีว่า อนิรุทธิ์ไม่ใช่คนอย่างนั้น อย่าใส่ร้ายกัน ก็ถูกปานดาวสวนไปทันทีว่า ไหนว่าต้องการความจริง พอพิมพูดความจริงก็หาว่าใส่ร้าย ตะคอกน้องว่า “ฉันอยากจะรู้ว่าเธอต้องการอะไรกันแน่”
ปานฟ้าบอกว่าต้องการความจริง ปานดาวตะคอกว่าพิมก็พูดความจริงแล้วไง ภูวดลแทรกขึ้นว่า พิมมีพยานคือป้าแก้ว
ทุกคนมองป้าแก้วขวับ ป้าแก้วอึกอัก เติมบุญบอกว่าให้พูดมาไม่ต้องกลัวใคร ตนเป็นประธานของบ้านไม่ต้องกลัว
ป้าแก้วบอกว่าเห็นพิมวิ่งออกจากห้องปานเดือน พิมแทรกทันทีว่า เพราะอนิรุทธิ์ฉุดตนเข้าไปในห้อง ตนต่อสู้ดิ้นรนจนวิ่งออกมาได้ ภูวดลมองหน้าปานฟ้ากับอนิรุทธิ์ ถามอย่างเป็นต่อว่า
“มีพยานรู้เห็นอย่างนี้ ยังจะสงสัยอะไรกันอีกล่ะ”
“เอาเถอะ ฉันจะฟังจากปากนายรุทธิ์อีกที เรื่องนี้ถือว่ายังไม่ยุติ” เติมบุญตัดบท
แต่ปานดาวไม่ยอมหาว่าพ่อไม่ยุติธรรม ถามว่าถ้าเป็นภูวดลก่อเรื่องแบบนี้ คุณพ่อคงไล่ออกจากบ้านไปแล้วใช่ไหม ตัดพ้อว่า พ่อรักลูกไม่เท่ากันไม่พอ ยังรักลูกเขยไม่เท่ากันอีก พาลไปถึงว่า
“นี่ถ้าเจ้าทินภัทรไม่หายไปจากบ้าน คุณพ่อคุณแม่ ก็คงรักหลานไม่เท่ากันอีกใช่ไหมล่ะคะ”
สายอุษาบอกให้ปานดาวหยุด ปานดาวไม่หยุด ปานฟ้าจึงพูดแทรกขึ้นว่า
“พี่ดาวคะ ฟ้าขอร้องค่ะ คุณพ่อไม่สบายพี่ดาวก็ทราบ”
ปานดาวตวาดปานฟ้าว่า ไม่ต้องมาทำตัวเป็นแม่พระแถวนี้ แน่จริงก็ไปโกนหัวบวชชีไปเลย แล้วหันชวนภูวดลออกไปกัน ตนทนอยู่ท่ามกลางคนไม่ยุติธรรมไม่ได้ ซึ่งภูวดลก็ลุกไปอย่างว่าง่ายตามแผนที่รู้กัน
เติมบุญหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน สายอุษารีบเข้าประคองถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า
“ฉันอยากไปหาปานเดือน ออกไปนอกบ้านบ้างคงดีกว่านี้”
“ค่ะคุณพ่อ ถ้างั้นฟ้าจะเลื่อนการประชุมไปเป็นตอนบ่ายค่ะ” ปานฟ้ารับคำมองเติมบุญด้วยความเป็นห่วง...
ooooooo
เช้าวันเดียวกัน อานนท์บอกภาคินว่าจะซื้อรถคันใหม่ให้เขาขับไปทำงาน ภาคินขอบคุณแต่ไม่ขอรับ อานนท์บอกอีกว่า อย่าทิฐิเพราะบ้านนี้ก็เป็นบ้านของเขา อย่างไรเสียตนก็ยังอยู่ ภาคินบอกตรงๆว่า ตนไม่อยากมีปัญหา
“งั้นแกใช้รถคันเก่าของพ่อไป พ่อจะซื้อคันใหม่ ห้ามปฏิเสธ ต่อไปนี้จะใช้รถจะได้ไม่ต้องขออนุญาตพ่อ”
ภาคินจำต้องยอมรับแต่ถูกวิมลวรรณเดินอ้าวเข้ามาพูดกับอานนท์ว่า
“อย่าบอกนะว่า รถคันใหม่ที่คุณจะซื้อน่ะซื้อให้ไอ้เด็กเหลือขอพ่อแม่ไปคนละทางอย่างมัน”
อานนท์บอกว่าตนตั้งใจซื้อให้ภาคินจริงๆ แต่เขาไม่รับเลยให้ใช้รถคันเก่าของตนแทน ก้องภพสอดแทรกทันทีว่า รถคันเก่าก็น่าจะให้ตนเอาไปขับเล่น เลยเกิดโต้เถียงกันขึ้นอีก สุดท้ายภาคินไม่ขอรับรถคันนั้น ส่งกุญแจรถคืน
“ไม่ได้! ถ้าแกไม่รับ แกก็ไม่ต้องนับถือว่าฉันเป็นพ่อ” อานนท์เสียงเข้ม จนภาคินจำต้องรับไว้
วิมลวรรณไม่พอใจมาก ด่าภาคินว่าจองหอง แล้วหันไปสั่งอานนท์ว่าต่อไปจะให้อะไรกันอีกก็ต้องปรึกษาตนก่อน อย่างน้อยตนก็เป็นเมียไม่ใช่เมียข้างถนนอย่าง “แม่มัน”
ooooooo
ระหว่างภาคินขับรถจะไปทำงานนั่นเอง เขาได้รับโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือจากปานฟ้า ให้พาบุญทิ้งไปที่โรงพยาบาล เพราะปานเดือนกำลังเศร้าซึมหนัก
เมื่อบุญทิ้งรู้ว่าภาคินจะไปโรงพยาบาลก็ตื่นเต้นดีใจบอกว่า
“พาผมไปนะครับ ผมอยากไปหาคุณเดือน ผมสงสารคุณเดือน”
เมื่อภาคินพาบุญทิ้งขึ้นรถ เขาดูแลหนูน้อยอย่างห่วงใย จนเฟื่องแก้วที่มายืนดูหน้าอยู่ เศร้าเมื่อนึกถึงว่าภาคินกำลังจะไปหาใคร แล้วก็หงุดหงิดขึ้นมาเมื่อตุลย์โผล่มาบอกว่า หิวมากมีอะไรให้รองท้องบ้าง
เฟื่องแก้วไม่มีใจให้ตุลย์อยู่แล้ว เมื่อเขามาทำหน้าทะเล้นพูดอ้อน ก็แสดงความรำคาญ จนตุลย์บอกว่า
“ถ้าคุณแก้วไม่อยากเห็นหน้าผม ผมก็จะไม่มาที่นี่อีกเลย จะย้ายไปประจำที่อื่น แล้วให้ตำรวจนายอื่นมาประสานงานกับมูลนิธิแทนผม”
“ขู่เหรอ” เฟื่องแก้วถามงอนๆ แล้วเดินนำไป ตุลย์แอบยิ้มหน้าทะเล้นที่ลูกเล่นตนได้ผล
ooooooo
ทุกคนที่บ้านพากันไปเยี่ยมปานเดือน ภูวดลวางแผนอุบาทว์จะทำให้ปานเดือนคลั่งอาละวาดต่อหน้าทุกคนให้ป่วนกันไปหมด พิมอาสาทันทีว่า ตนจัดการเอง
ระหว่างที่อนิรุทธิ์กำลังกล่อมให้ปานเดือนทานอาหารอยู่นั้น ปานเดือนขอให้เขาสัญญาว่าจะไม่ทำร้ายตนอีก อนิรุทธิ์ให้สัญญายืนยันว่าตนไม่มีวันทรยศต่อเธอไม่ว่าจะให้พูดกี่ครั้งตนก็ ยังพูดเหมือนเดิม ทำเหมือนเดิม
ทันใดนั้นเอง อนิรุทธิ์ก็ได้รับโทรศัพท์จากพิม ที่โทร.มาออดอ้อนทวงความเป็นผัวเมียกับเขา อนิรุทธิ์โมโหเอ่ยชื่อพิมเสียงดัง ปานเดือนชะงักทันที
อนิรุทธิ์ด่าพิมเสียงดัง ปานเดือนเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ ตวาดถามเสียงเขียวตาขวาง
“พิม...นังพิม...นังพิมมันโทร.มาใช่ไหม?!”
ปานเดือนอาละวาดปัดข้าวของกระจาย อนิรุทธิ์วางโทรศัพท์หันไปร้องเรียกปานเดือนเตือนสติ ส่วนพิมได้ยินเสียงเอะอะลอดเข้ามาทางโทรศัพท์ ก็หันบอกปานดาวกับภูวดลที่นั่งฟังอยู่อย่างสะใจว่า
“นังเดือนอาละวาดใหญ่เลยค่ะ”
พยาบาลรีบวิ่งเข้ามาในห้อง พูดด้วยความเป็นห่วงคนไข้ว่า
“ดิฉันบอกแล้วไงคะว่าอย่าทำให้คนไข้กระทบกระเทือนจิตใจ”
อนิรุทธิ์ยืนซึม มองดูพยาบาลที่กอดปานเดือนไว้อย่างปลอบใจ
ส่วนพวกปานดาว ก็สุมหัวกันหัวเราะอย่างสะใจ ต่างคาดหวังกันว่าถ้าปานเดือนเป็นอะไรไป ทั้งบ้านก็ต้องปั่นป่วนต่างหวังสมบัติที่จะตกเป็นของพวกตนในไม่ช้านี้
ooooooo
ปานฟ้าพาเติมบุญกับสายอุษาเข้ามาในโรง-พยาบาล เจอภาคินยืนอยู่กับบุญทิ้งที่หน้าลิฟต์ เติมบุญดีใจบอกว่า บุญทิ้งมาอย่างนี้อาการของปานเดือน คงจะดีขึ้น
“โชคดีจังนะคะ นี่ถ้ายัยเดือนหายนะ ยังไม่รู้จะตอบแทนคุณภาคินกับหนูบุญทิ้งยังไงดีเลย” สายอุษาเอ่ยอย่างชื่นชม
“ไม่ต้องหรอกครับ บุญทิ้งก็อยากมาหาคุณเดือน น่าแปลกนะครับ สองคนนี้ผูกพันกันเหมือนกับ...”
“เป็นแม่เป็นลูกกัน” เติมบุญต่อให้จากความรู้สึกของตัวเอง
พอดีลิฟต์มาจึงพากันเข้าลิฟต์ไป
แต่พอขึ้นถึงชั้นที่ปานเดือนอยู่ เจออนิรุทธิ์นั่งเศร้าอยู่แถวหน้าลิฟต์ ถามไถ่จึงรู้ว่า หมอบอกว่าต้องส่งตัวปาน-เดือนไปรักษาที่ศรีธัญญา ทุกคนช็อก แต่ภาคินเอ่ยขึ้นว่า
“ถ้าคิดในแง่ดี ก็จะทำให้คุณเดือนรักษาได้ถูกทางนะครับ ทางนี้อาจมีแต่แผนกจิตเวช รักษาอาการป่วยของคุณปานเดือนไม่ได้ผลพอ...”
ระหว่างนั้น บุญทิ้งเดินไปยืนร้องไห้ห่างออกไป ภาคินตามไปถามว่าเป็นอะไร หนูน้อยบอกว่าสงสารปานเดือน ภาคินได้แต่กอดปลอบใจ
ปานฟ้าถามอนิรุทธิ์ว่าปานเดือนจะต้องไปเมื่อไร
“วันนี้แหละครับ ประสานงานระหว่างโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว กำลังทำใบส่งตัวอยู่”
“กรรมเวรอะไรของยัยเดือนคะคุณ...” สายอุษาแทบจะหมดแรง
“ไม่ใช่กรรม ไม่ใช่เวรของยัยเดือนหรอก กรรมของเราต่างหาก” เติมบุญพูดแล้วสบตากับสายอุษาอย่างเข้าใจกัน...
ปานฟ้าไม่อยากให้พ่อกับแม่ต้องสะเทือนใจและเหน็ดเหนื่อยกว่านี้ บอกให้กลับไปพักที่บ้านดีกว่า ภาคินเห็นด้วย รับปากว่าทางนี้พวกตนจัดการเอง เสร็จแล้วค่อยไปเยี่ยมภายหลังก็แล้วกัน
“พี่ภาคินต้องให้ผมไปด้วยนะครับ” บุญทิ้งอ้อนวอนกลัวตัวเองจะไม่ได้เยี่ยมปานเดือนที่ต่างก็รู้สึกมีความผูกพันกันอย่างประหลาด
ooooooo
หลังจากปานฟ้าขับรถมาส่งพ่อกับแม่ที่บ้านแล้ว เธอขอตัวเพราะต้องรีบไปประชุมที่เลื่อนนัดมาเมื่อเช้านี้ ฝากป้าแก้วให้ช่วยดูแลแทนตนด้วย
ส่วนปานดาว พอเห็นพ่อกับแม่กลับมา ก็ทำทีมาถามว่าปานเดือนเป็นอย่างไรบ้าง เมื่อสายอุษาบอกว่าหมอจะส่งไปที่ศรีธัญญา ปานดาวก็สะใจจนเก็บไว้ไม่อยู่ ยิ้มในหน้า ถามว่าร้ายแรงขนาดนั้นเลยหรือ
“ฉันอยากรู้ว่าใครกันที่ทำให้ปานเดือนเป็นอย่างนี้” เติมบุญพูดขึ้นลอยๆ
ปานดาวกินปูนร้อนท้องหาว่าพ่อว่าตนเป็นเหตุให้ปานเดือนเป็นบ้า เติมบุญพูดดักคอว่าถ้าตัวเองไม่ได้ทำก็ไม่ต้องร้อนตัว ปานดาวยิ่งโวยวายพาลไปถึงเรื่องเดิมๆ ที่หาว่าพ่อกับแม่ลำเอียงรักแต่น้องไม่รักตนถามว่ายังเห็นตนเป็นลูกอยู่รึ เปล่า!
“หยุดนะยัยดาว เมื่อไหร่แกจะเลิกก้าวร้าวกับพ่อกับแม่เสียที เชื่อผัวจนหัวสมองแกนี่มีแต่คำว่าเนรคุณเต็มหัวแล้ว” สายอุษาปรามอย่างเหลืออด
พิมนิ่งฟังอย่างสะใจแต่พยายามนิ่งไว้ไม่ให้ใครสงสัย ส่วนป้าแก้วนั่งมองทุกคนด้วยความกังวล
“ใช่สิ...ดาวไม่ใช่ลูกที่พ่อแม่รักนี่ พูดอะไรก็ผิดหมด ทำไมไม่ยกนังเดือนกับนังฟ้าทูนไว้บนหัวเสียเลยล่ะคะ”
สายอุษาตบหน้าปานดาวอย่างแรง ตวาดปราม
“จำไว้ยัยดาว นรกมันจะกินหัวแก!”
ทันใดนั้น เติมบุญโรคหัวใจกำเริบ เขาหายใจหอบเหมือนขาดอากาศ ป้าแก้วตกใจร้องบอก สายอุษาโผเข้าเรียก
“คุณพี่...โทร.ตามหมอทีแก้ว”
พิมมองอยู่ พึมพำอย่างสะใจ
“อีกหน่อยก็คงตายกันหมดบ้าน...สะใจ!”
ooooooo
อ่านละครดุจดาวดิน ตอนที่ 6
ปานดาววิ่งขึ้นไปที่ห้องนอนกุมแก้มที่ถูกสาย-อุษาตบร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร ภูวดลเฝ้าปลอบโยนไม่ห่าง
“อย่าร้องเลยคุณดาว...นึกถึงชัยชนะเราสิ ตอนนี้มันใกล้เข้ามาแล้วนะ”
ปานดาวมองหน้าเชิงถาม ภูวดลชี้แจงว่า “อย่างน้อย นังเดือนก็ได้ไปอยู่โรงพยาบาลบ้าแล้ว ต่อให้มันหาย คนก็ยังเรียกมันว่าเป็นบ้าอยู่ดี พ่อแม่คุณดาวก็แก่มากแล้ว จะอยู่ได้อีกกี่ปี ทรัพย์สมบัติมหาศาลจะไปไหนเสีย คอยเล่นงานให้ประสาทกันทั้งบ้านแบบนี้แหละดี ไม่ต้องทำงานให้เหนื่อยเหมือน
น้องสาวคุณด้วย”
ฟังภูวดลแล้ว ปานดาวยิ้มออกมาทั้งน้ำตา...
ooooooo
ปานฟ้าไปประชุมกรรมการบริษัทที่ห้างเพื่อเตรียมงานประกวดวาดภาพหัวข้อ “ครอบครัวอุ่นรัก” จากการเสนอชื่อผู้มอบรางวัลครั้งนี้ เสียงส่วนใหญ่เห็นด้วยให้คุณศิริโสภาเป็นผู้มอบรางวัล เพราะมีภาพลักษณ์การทำงานเพื่อเด็กมาเป็นเวลานาน
ปานฟ้าจึงสรุปและปิดประชุม เพื่อกรรมการจะได้ไป ดูบริเวณที่ใช้จัดงาน เผื่อบางท่านอาจมีข้อเสนอแนะให้กับทางฝ่ายออกแบบฉากและดูแลสถานที่บ้าง
อ่านละครดุจดาวดิน ตอนที่ 5-6 วันที่ 16 ม.ค.55
ละครเรื่องดุจดาวดินบทประพันธ์โดย : โยษิตา
ละครเรื่องดุจดาวดินบทโทรทัศน์โดย : ภาคย์รพี, เอื้องอรุณ และไทสคริปท์
ละครเรื่องดุจดาวดินกำกับการแสดงโดย : เอกภพ ตันหยงมาศกุล
ละครเรื่องดุจดาวดิน ผลิตโดย : กันตนา
ละครเรื่องดุจดาวดินแนวละคร : ดราม่าเข้มข้น
ละครเรื่องดุจดาวดินออกอากาศ : วันพุธ-วันพฤหัสบดี เวลา 20.30 น.
ติดตามชมละครเรื่องดุจดาวดินออกอากาศทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
เริ่มออกอากาศตอนแรก : วันพุธที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2555
ที่มา ไทยรัฐ
0 comments:
Post a Comment